นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ กล่าวภายหลังลงพื้นที่พบปะเกษตรกรและกลุ่มสหกรณ์ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีว่า ได้มาติดตามเพื่อให้ทราบว่าสินค้าเกษตรท้องถิ่นที่มีศักยภาพในการส่งออกหรือที่ส่งออกอยู่แล้ว ซึ่งผู้ประกอบการต้องการให้กระทรวงพาณิชย์สนับสนุนให้สามารถส่งออก หรือส่งออกไปประเทศใหม่ๆ เพิ่มเติมอีกหรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า เงาะ กล้วยหอม และกุ้ง เป็นสินค้าที่มีศักยภาพและมีการรวมกลุ่มตั้งเป็นสหกรณ์ที่มีการบริหารจัดการที่ดีและส่งออกได้บ้างแล้ว แต่ยังมีช่องทางที่จะขยายการส่งออกได้อีก โดยเฉพาะในประเทศที่ไทยมีความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ด้วย เช่น อาเซียน จีน และญี่ปุ่น ซึ่งไม่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าส่วนใหญ่จากไทย จึงต้องการให้เกษตรกรใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอให้มากๆ และได้สั่งให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศช่วยเร่งให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องดังกล่าวด้วย
ด้านนางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ได้พบปะเกษตรกร และสหกรณ์การเกษตรบ้านนาสาร จำกัด สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นศูนย์กลางรวบรวมผลไม้ของสมาชิก โดยเฉพาะเงาะนาสาร ที่ส่งออกไปจีน มาเลเซีย และสิงคโปร์ โดยปัจจุบันรวบรวมเงาะเพื่อส่งออกได้วันละ 2.5 ตัน และขายได้สูงถึงกิโลกรัม (กก.) ละ 160 บาท ในขณะที่ราคาเงาะทั่วไปที่ขายในไทยกก.ละ 20 กว่าบาท ซึ่งช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรได้หลายเท่า นอกจากนี้ สหกรณ์ยังเตรียมส่งออกเงาะพรีเมี่ยม โดยใช้แบรนด์ของสหกรณ์ ชื่อ "เคหว่อง" และมีแผนออกแบบบรรจุภัณฑ์ จัดทำ QR Code เพื่อให้ถตรวจสอบย้อนกลับแหล่งผลิตได้ ส่วนกล้วยหอม ปัจจุบันส่งให้ร้านสะดวกซื้อในพื้นที่ และส่งออกไปญี่ปุ่น
ส่วนการพบปะกับสหกรณ์ผู้เลี้ยงกุ้งลุ่มน้ำท่าทอง จำกัด อำเภอกาญจนดิษฐ์ ที่เป็นแหล่งผลิตกุ้งขาวแวนนาไม พบว่า ในปี 61 สหกรณ์รวบรวมผลผลิตได้ 400 ตัน มูลค่า 86.8 ล้านบาท จำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ โดยมีตลาดหลัก คือ สหรัฐฯ ญี่ปุ่น แคนนาดา สหภาพยุโรป ปัจจุบันสหกรณ์มีแผนสร้างห้องเย็นเพื่อแปรรูปเป็นสินค้ากุ้งพรีเมี่ยม และลดต้นทุนการผลิต นอกจากนี้ ยังเตรียมส่งออกไปตลาดใหม่อื่นๆ อีก เช่น จีน คาดว่า จะส่งออกหลังจากสร้างห้องเย็นเสร็จ ถือเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้ากุ้งและเพิ่มช่องทางการจำหน่าย ลดปัญหาราคาตกต่ำ ขณะเดียวกันก็เป็นการช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย