รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมได้นำเสนอโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ฝั่งตะวันตก (บางขุนนนท์- ศูนย์วัฒธรรม) เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) วันนี้ แต่ยังมีประเด็นที่ต้องพิจารณาต่อในสัปดาห์หน้า เมื่อพิจารณาเสร็จแล้วจีงจะนำเสนอให้ ครม.ต่อไป
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมได้นำเสนอโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ฝั่งตะวันตก (บางขุนนนท์- ศูนย์วัฒธรรม) เข้าสู่การพิจารณาของครม.เศรษฐกิจวันนี้ ซึ่งมีประเด็นในเรื่องกรอบวินัยการเงินการคลัง ซึ่งหากก่อหนี้ผูกพันงบประมาณปี 62 จะมีวงเงินจำกัด ซึ่งเมื่อหารือกับผู้อำนวยการสำนักงบประมาณแล้วเห็นว่า หากจะใช้กรอบวงเงินงบประมาณปี 63 สามารถดำเนินการได้ จะไม่กระทบต่อวินัยการเงินการคลัง
ซึ่งเมื่อพิจารณาเสร็จแล้วคาดว่าจะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ภายใน 2 สัปดาห์ หลังจากนายกรัฐมนตรีกลับมาจากการเยือนสหรัฐอเมริกา โดยยังคงยืนยันว่า จะเริ่มก่อสร้างเสร็จในปี 2569 วงเงินก่อสร้าง 1.22 แสนล้านบาท
"มันจะมีวงเงินในกรอบวินัยการเงินการคลัง เวลาผูกพันจะมีวงเงินจำกัดผูกพันได้เท่าไหร่บ้าง ซึ่งเข้าใจว่า ปี 62 ผูกพันได้อย่างมาก 1.5 แสนล้าน โครงการนี้ก็ 1.2 แสนล้านแล้ว งบปี 63 อีก 2 สัปดาห์เองไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ซึ่งพอตกลงตรงนี้เราก็สบายใจ อย่าลืมว่าโครงการนี้เสนอมานานแล้วกว่ามาถึงจุดนี้ ถ้าเกิดเร่งทำในปี 62 จะมีปัญหาเรื่องติดกรอบ พอถึงปี 63 กรอบก็ไม่ติดแล้ว แต่ต้องตกลงคุยให้เรียบร้อย"นายกอบศักดิ์ กล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมครม.เศรษฐกิจ ได้รับทราบความคืบหน้าโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ หรือ เมกะโปรเจคท์ ของกระทรวงคมนาคม ซึ่งมีอยู่ 44 โครงการ วงเงินรวม 1,947,310 ล้านบาท เป็นงบจากงบประมาณแผ่นดิน 259,791 ล้านบาท เงินกู้ 1,201,056 ล้านบาท เงินจาก PPP 338,810 ล้านบาท และเงินรายได้/กองทุน 147,654 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากเริ่มต้นโครงการถึงปี 61 เบิกจ่ายแล้ว 210,788 ล้านบาท ปี 62 เบิกจ่ายแล้ว 90,254 ล้านบาท ปี 63 เบิกจ่ายอีก 206,040 ล้านบาท ในปี 64 และระยะต่อไป แผนเบิกจ่าย 1,392,972 ล้านบาท
โดยโครงการที่ครม.อนุมัติแล้วและอยู่ระหว่างการก่อสร้าง 17 โครงการ วงเงินรวม 782,329 ล้านบาท, โครงการที่ครม.อนุมัติแล้ว และอยู่ระหว่างเตรียมดำเนินการ 12 โครงการ วงเงินรวม 412,739 ล้านบาท, โครงการที่คณะกรรมการ PPP เห็นชอบ และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เตรียมเสนอครม. 2 โครงการ วงเงินรวม 201,073 ล้านบาท และโครงการที่จะนำเสนอครม. ในระยะต่อไป 13 โครงการ วงเงินรวม 551,170 ล้านบาท
นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า หากสามารถขับเคลื่อนทุกๆโครงการได้ทั้ง 44 โครงการ จะมีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ให้เกิดเม็ดเงินลงทุนและกระตุ้นให้เกิดการจ้างงาน ซึ่งหากยังเกิดภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลกในปีหน้า จะมีเม็ดเงินไปขับเคลื่อนผ่านโครงการต่างๆได้
"เศรษฐกิจโลกผมว่าจะชะลอแบบนี้ไปอีกระยะเวลาหนึ่ง ในอนาคตข้างหน้าต้องพยายามหาโครงการให้เม็ดเงินไหลไปเรื่อยๆ เพื่อว่าได้มีโครงการลงทุนดีๆตลอดเวลา และมีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ ดีกว่าไปหาโครงการเล็กๆยิบย่อย ผมว่าโครงการเหล่านี้เป็นโครงการคุ้มเงิน ควรลงทุนนานแล้ว"นายกอบศักดิ์ กล่าว
นายกอบศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการประชุมครม.เศรษฐกิจวันนี้ ยังไม่ได้พิจารณามาตรการส่งออกและมาตรการท่องเที่ยว เนื่องจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ติดภารกิจงาน Expo ที่ประเทศจีน จึงจะเสนอในการประชุมครั้งต่อไป คาดว่า ในวันที่ 4 หรือ 7 ต.ค.นี้ พร้อมทั้งเตรียมมาตรการช่วยเหลือ SME และการใช้จ่ายงบท้องถิ่นกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ต่างๆ หารือในที่ประชุมครม.เศรษฐกิจครั้งต่อๆไป
ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.เศรษฐกิจ ให้ความเห็นชอบโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนตะวันตก (บางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย) ระยะทาง 35.9 กม. มูลค่ารวม 122,041 ล้านบาทแล้ว โดยมอบหมายให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมเพื่อสรุปรายละเอียดอีกครั้ง ในวันที่ 25 ก.ย. เวลา 13.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อสรุปและนำเสนอโครงการต่อที่ประชุมครม.ในวันที่ 1 ต.ค.
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังสอบถามเรื่องประมาณการณ์จำนวนผู้โดยสารมีความแม่นยำแค่ไหน โดยตามข้อมูลสายสีส้มด้านตะวันออกจะเปิดเดินรถในปี 2566 และเมื่อเปิดครบสมบูรณ์ทั้งด้านตะวันออกและตะวันตก จำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นไปอีก 3-4 เท่า
"ครม.เศรษฐกิจ เห็นด้วยในการดำเนินโครงการตอนนี้ เหลือรูปแบบ ดำเนินโครงการจะทำแบบไหน เนื่องจากเส้นทางสายสีส้ม ตะวันออก ใช้วิธีรัฐลงทุนงานโยธา ที่ประชุมจึงสอบถามว่า ทางด้านตะวันตก มีเหตุผลอย่างไรในการให้เป็นเอกชนลงทุนงานโยธา งานระบบและเดินรถรวมทั้ง ด้านตะวันออกกับตะวันตก ซึ่งท่านรองนายกฯอนุทิน จะประชุมสรุปในวันพุธหน้า"