ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า การส่งออกของไทยในปี 2562 มีแนวโน้มหดตัวเข้าหากรอบล่างของประมาณการส่งออกไทยที่ -2.0 ถึง 1.0% โดยประเมินว่า แม้การส่งออกทองคำจะขยายตัวในระดับที่สูงต่อเนื่อง แต่คงไม่เพียงพอที่ชดเชยผลกระทบทางลบจากปัจจัยเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกที่มีผลกระทบต่อปริมาณการค้าโลก และการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลกที่มีต่อการส่งออกของไทยในช่วงที่เหลือของปี
โดยหากต้องการให้ภาพรวมการส่งออกของไทยไม่หดตัวในปีนี้ มูลค่าส่งออกของไทยในช่วงที่เหลือของปีอีก 4 เดือนจะต้องขยายตัวเฉลี่ย 4.5% หรือมีมูลค่าการส่งออกเฉลี่ยราวเดือนละ 21,720 ดอลลาร์สหรัฐฯ (เฉลี่ย 8 เดือนแรกของปี 2562 อยู่ที่ 20,761ดอลลาร์สหรัฐฯ) ซึ่งภายใต้บรรยากาศความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกดังกล่าว นับเป็นความท้าทายอย่างมาก
ทั้งนี้ แม้ว่าการส่งออกโดยรวมจะหดตัวลง ดุลการค้ายังเกินดุลในระดับสูง เป็นแรงหนุนค่าเงินบาทให้แข็งค่า การเกินดุลการค้าที่ยังคงอยู่ในระดับสูงส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเกินดุลการค้าจากทองคำ โดยนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.62 ที่ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ไทยมีการส่งออกทองคำมากกว่าการนำเข้า ซึ่งหากหักผลของการส่งออก-นำเข้าทองคำ การเกินดุลการค้าจะหายไปราวครึ่งหนึ่ง และในเดือนก.ค. 62 มีการขาดดุลการค้า
"ดังนั้น การเกินดุลการค้าโดยรวมที่ยังอยู่ในระดับสูง เป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้ความต้องการสภาพคล่องเงินบาทยังมีอยู่มาก และหนุนให้ค่าเงินบาทยังอยู่ในทิศทางแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง" บทวิเคราะห์ระบุ
สำหรับมูลค่าส่งออกไทยเดือนส.ค.62 กลับมาหดตัวที่ 4.0% ต่อปี โดยเป็นการหดตัวลึกในสินค้าส่งออกหลัก อาทิ รถยนต์และชิ้นส่วนอุปกรณ์ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ตลอดจนสินค้าวัตถุดิบขั้นกลาง อย่างเคมีภัณฑ์ และเม็ดพลาสติก ส่งผลให้การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมที่มีน้ำหนัก 80% ของมูลค่าการส่งออกรวมของไทยหดตัว 1.9%
ขณะที่ผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว สงครามการค้า ตลอดจนค่าเงินบาทที่แข็งค่า ยังเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2562 ให้หดตัวที่ 2.2%
อย่างไรก็ตาม การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมไปยังตลาดสหรัฐฯ ยังคงขยายตัวเป็นบวกสวนทางกับภาพรวม จากสินค้าส่งออกในรายการเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้ารถยนต์และส่วนประกอบ ซึ่งสะท้อนถึงผลบวกจากสงครามการค้าที่มีการส่งออกสินค้าไปยังตลาดสหรัฐฯ เพื่อทดแทนการนำเข้าจากตลาดจีน
ทั้งนี้ การส่งออกทองคำในเดือนส.ค. ยังคงขยายตัวอยู่ในระดับสูงตามราคาทองคำในตลาดโลกที่สูงขึ้น ซึ่งหากหักมูลค่าการส่งออกทองคำ การส่งออกไทยในเดือนส.ค.62 จะหดตัวที่ 9.8% จากความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกที่ยังคงอยู่ในระดับสูงจากความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ยังไม่น่าจะหาข้อตกลงร่วมกันได้ในระยะอันใกล้ ความไม่แน่นอนของสถานการณ์ของอังกฤษที่จะออกจากสหภาพยุโรป ส่งผลให้ยังมีความต้องการทองคำในตลาดโลกในระดับสูง โดยราคาทองคำในตลาดโลกยังมีทิศทางสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดว่า ในเดือนก.ย.62 การส่งออกทองคำ ยังคงเป็นแรงหนุนต่อมูลค่าการส่งออกรวมของไทย