นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการเปิดรับลงทะเบียนใช้สิทธิตามมาตราการชิมช้อปใช้ ผ่าน www.ชิมช้อปใช้.com ว่า ได้รับรายงานจากธนาคารกรุงไทย (KTB) ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. มีผู้มาลงทะเบียนใช้สิทธิแล้ว 8.8 แสนราย และคาดว่าอีกไม่เกิน 1 ชั่วโมง หรือประมาณ 14.00 น. จะมีผู้ลงทะเบียนในวันแรกครบ 1 ล้านราย เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะมีผู้มาลงทะเบียนวันละ 1 ล้านราย จากเป้าหมายของโครงการ 10 ล้านราย
อย่างไรก็ดี กระทรวงการคลังยืนยันว่าจะไม่มีการขยายจำนวนผู้เข้าร่วมมาตรการต่อวัน เพราะมองว่าจำนวน 1 ล้านรายต่อวันเป็นจำนวนที่เหมาะสมแล้ว
"เมื่อคืน (เที่ยงคืน) ที่เปิดให้ลงทะเบียนเป็นวันแรก ระบบก็มีการติดขัดอยู่บ้าง เนื่องจากมีคนเข้ามาลงทะเบียนพร้อมกันจำนวนมาก แต่ว่าธนาคารกรุงไทยได้แก้ปัญหาดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ยอมรับว่าประชาชนให้ความสนใจโครงการนี้เกินคาด" นายอุตตม กล่าว
นอกจากนี้ ได้มอบแนวทางให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ไปพิจารณาขยายวันในการรับสมัครร้านค้าเพื่อเข้าร่วมโครงการ จากปัจจุบันมีร้านค้าเข้าร่วมมาตรการแล้วทั้งสิ้น 1.5 แสนราย โดยคาดว่าจะขยายเวลาให้ร้านค้ามาร่วมลงทะเบียนถึงวันที่ 15 ต.ค.นี้ จากเดิมสิ้นสุดระยะเวลาไปเมื่อ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา
ด้านนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานคณะกรรมการธนาคารกรุงไทย (KTB) กล่าวว่า ระบบการรับลงทะเบียนมาตรการชิมช็อปใช้ไม่มีปัญหาล่ม เพราะยังมีประชาชนสนใจเข้ามาลงทะเบียนอย่างต่อเนื่อง โดยสูงสุดอยู่ที่ 5 หมื่นรายต่อวินาที
"มั่นใจว่า การลงทะเบียนจนครบระยะเวลา จะไม่มีปัญหา ระบบจะสามารถรองรับได้" นายเอกนิติ กล่าว
พร้อมระบุว่า กรมสรรพากรยืนยันว่าผู้ที่มาลงทะเบียนร่วมโครงการ ทั้งในส่วนร้านค้าและประชาชนจะไม่ถูกตรวจสอบภาษี เพราะกรมฯ ไม่ได้นำข้อมูลการลงทะเบียนมาใช้ในการตรวจสอบภาษีแต่อย่างใด เนื่องจากข้อมูลทั้งหมด กรมฯ มีอยู่แล้ว ขอให้ประชาชนอย่างกังวล เพราะประชาชนทุกคนมีหน้าที่ต้องเสียภาษีอยู่แล้ว
นายเอกนิติ กล่าวอีกว่า มาตรการชิมช็อปใช้ จะเข้ามาช่วยพยุงเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ หลังจากที่ภาวะของเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันเกิดการชะลอตัว ซึ่งได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก และกระทบมาถึงการส่งออกสินค้าและบริการของไทยให้ชะลอลงตาม ส่งผลให้ฉุดการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งมาตรการชิมช็อปใช้นี้ นอกเหนือจากรัฐบาลจะให้เงิน 1,000 บาทแล้ว แต่ยังมีการให้เงินคืนอีก 15% ทำให้ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งทำให้การบริโภคในประเทศฟื้นตัวขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
"มาตรการดังกล่าว จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ และทำให้มีเม็ดเงินกระจายเข้าไปในทุกส่วนของภูมิภาคมากขึ้น และทำให้ประชาชนไทยมาจับจ่ายใช้สอยในประเทศแทนการจับจ่ายใช้สอยต่างประเทศ ทำให้เงินหมุนเวียนอยู่ในประเทศ" นายเอกนิติระบุ
อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามผลจากมาตการดังกล่าวว่าจะสามารถหนุนเศรษฐกิจในประเทศได้เป็นอย่างไร หลังจากที่เริ่มเปิดให้ใช้จริง ขณะที่ร้านค้าที่ต้องการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเพิมเติมนั้น รัฐบาลได้ขยายระยะเวลาการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการไปจนถึงวันที่ 15 ต.ค.นี้ จากเดิมที่สิ้นสุดวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยปัจจุบันมีร้านค้าเข้าร่วมโครงการชิมช้อปใช้แล้ว 150,000 ร้านค้า
ด้านนายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ KTB เปิดเผยว่า จากที่รัฐบาลเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ ชิม ช้อป ใช้ ในวันแรกตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 23 กันยายน 2562 ที่ผ่านมานั้น ธนาคารได้มีการเฝ้าระวังการลงทะเบียนตลอดเวลา ทันทีที่ทราบว่าประชาชนไม่ได้รับความสะดวกในการเข้าลงทะเบียนและเกิดความล่าช้านั้น ธนาคารเร่งขยาย Bandwidth ของช่องทางลงทะเบียนเพิ่มอีก 100% และปรับปรุงประสิทธิภาพของ Website เพื่อให้เกิดความรวดเร็วโดยทันที รวมทั้งมีความปลอดภัยและสามารถตรวจสอบได้ และยังคงมีความมั่นใจในเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล (Data Privacy) จากกรณีที่หน้าจอแจ้งว่า ลงทะเบียนครบ 1 ล้านสิทธิ์หลังเปิดให้ลงทะเบียนเพียง 6 นาที ธนาคารทราบถึงสาเหตุของเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งเกิดจากการเรียนรู้ของระบบประมวลผลแสดงค่าอัตโนมัติผิดพลาด ซึ่งธนาคารได้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขในทันทีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"ธนาคารขอขอบคุณประชาชนที่ให้ความสนใจอย่างล้นหลาม เกินความคาดหมาย และขอยืนยันว่า ระบบไม่ได้ล่ม แต่เนื่องจากมีคนเข้ามาลงทะเบียนพร้อมกันจำนวนมาก ทำให้ระบบหน่วงเป็นช่วงๆ จึงอาจต้องใช้เวลาในการรอลงทะเบียน ซึ่งเป็นเรื่องปกติของระบบคอมพิวเตอร์ ที่มีการใช้งานจำนวนมากๆ ในเวลาเดียวกัน ที่สำคัญระบบของธนาคารต้องใช้ความละเอียดรอบคอบ เนื่องจากการลงทะเบียนในครั้งนี้ จะมีการโอนเงินให้กับประชาชน ดังนั้นจึงให้เกิดความผิดพลาดไม่ได้ อีกทั้งธนาคารคำนึงถึงเรื่องความมั่นคง ปลอดภัยสูงสุด รวมถึงความถูกต้อง เป็นธรรม โปร่งใส และตรวจสอบได้ โดย ณ เวลา 13.15 น. ของวันที่ 23 กันยายน 2562 มีคนลงทะเบียนสำเร็จแล้วกว่า 9.3 แสนคน" นายผยงระบุ
นอกจากนี้ ธนาคารได้เตรียมขยายระบบการให้บริการลงทะเบียนของประชาชนในโครงการชิมช็อปใช้ผ่านเว็บไซต์ ซึ่งจะรองรับการให้บริการลงทะเบียนได้สูงถึง 100,000 ราย/ชั่วโมง จากวันนี้ที่เปิดระบบรองรับได้ 50,000 ราย/ชั่วโมง หลังจากที่วันนี้ช่วงเวลาพีคประมาณ 9 โมงเช้า มีประชาชนที่เข้ามาลงทะเบียนจำนวนมากสูงถึง 200,000 ราย/ชั่วโมง ทำให้ระบบในการลงทะเบียนเกิดความล่าช้าขึ้น ซึ่งธนาคารได้ทำการขยายระบบการให้บริการรองรับผู้เข้ามาลงทะเบียนในระบบไปแล้วในวันนี้
สำหรับวันพรุ่งนี้ (24 ก.ย.) ซึ่งเป็นวันที่สองที่เปิดให้ลงเบียนเข้ามาร่วมโครงการ ธนาคารมั่นใจว่าจะสามารถรองรับประชาชนที่เข้ามาลงทะเบียนได้อย่างเต็มที่ ซึ่งถือว่าการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการชิมช็อปใช้ของประชาชนถือว่าได้การตอบรับมากกว่าที่ธนาคารคาดคิดไว้ โดยในส่วนของระบบรอคิวการลงทะเบียน จะเปิดให้รอคิวได้เต็มที่ 200,000 ราย/ชั่วโมง
"ธนาคารมีความมุ่งมั่นในการสนองนโยบายภาครัฐ ในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และการลดการใช้เงินสด ซึ่งโครงการดังกล่าวจะทำให้เกิดการผลักดันการใช้จ่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น ทั้งในส่วนของประชาชนและร้านค้า" นายผยง ระบุ