นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และประธานกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กล่าวว่า ทั้ง กบข. และ กอช. ต่างเป็นกองทุนการออมของรัฐภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้การออมเพื่อวัยเกษียณของสมาชิกกองทุนเช่นเดียวกัน จึงนับเป็นคุณูปการที่ทั้ง 2 หน่วยงานได้บูรณาการความร่วมมือกันในครั้งนี้ เพื่อที่ กบข. จะสนับสนุนให้ กอช. ได้มีการเรียนรู้จากประสบการณ์ในการบริหารจัดการกองทุนของ กบข. และสามารถนำไปต่อยอดพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานของ กอช. ต่อไป
ด้านนายวิทัย รัตนากร เลขาธิการคณะกรรมการ กบข. กล่าวเพิ่มเติมว่า การสนับสนุนให้ กอช.ได้ศึกษาเรียนรู้จาก กบข. ในฐานะที่มีประสบการณ์การบริหารจัดการกองทุนมาก่อน เชื่อว่าจะช่วยส่งเสริมให้ กอช. เกิดการพัฒนางานที่รวดเร็วขึ้น สามารถให้บริการประชาชนได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงการคลังที่ต้องการให้ กบข. สนับสนุนกองทุนการออมของรัฐ โดย กบข. พร้อมให้ความร่วมมือและสนับสนุนภารกิจของ กอช. ภายใต้ขอบเขตความร่วมมือด้าน (1) การพัฒนากระบวนการลงทุนและการบริหารจัดการองค์กร (2) การแลกเปลี่ยนข้อมูล ให้คำปรึกษาแนะนำ หรือการศึกษาดูงาน และ (3) การส่งเสริมการออมและให้ความรู้แก่สมาชิก เพื่อส่งเสริมให้สมาชิกและบุคคลในครอบครัวมีความรู้ทางการเงิน และตระหนักถึงความจำเป็นของการมีเงินเกษียณที่เพียงพอ
น.ส.จารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ กอช. เปิดเผยว่า กอช. เป็นกองทุนบำนาญภาคประชาชน มีภารกิจสำคัญในการผลักดันให้ประชาชนที่ไม่มีสวัสดิการจากรัฐบาลได้เข้าถึงการออมเพิ่มขึ้น เพื่อไว้ใช้จ่ายเป็นรายเดือนหลังอายุ 60 ปี กอช.จึงผนึกกำลังกับ กบข. เพื่อส่งเสริมการออมในวัยเกษียณ และพัฒนาระบบงาน การจัดการกองทุนให้มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งส่งเสริมความรู้การวางแผนการออมเงินกับ กอช. ให้ข้าราชการที่เป็นสมาชิก กบข. ทั่วประเทศ ได้ออมเงินให้กับลูกหลานหรือคนในครอบครัวที่ไม่มีสิทธิสวัสดิการจากรัฐบาลได้ออมเงินไว้ใช้หลังเกษียณ และเกิดการแนะนำบอกต่อเพิ่มขึ้น และเชื่อมั่นว่าการร่วมมือระหว่าง กบข. กับ กอช. ในครั้งนี้จะเป็นการพัฒนาระบบงานด้านลงทุน และบริหารจัดการให้มีความแข็งแรง สามารถรองรับฐานสมาชิก กอช. ที่เพิ่มขึ้นได้อย่างดี การออมเงิน จึงเป็นปัจจัยของความสำเร็จและเป็นรากฐานของการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน