รัฐบาลญี่ปุ่นกล่าวในวันนี้ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นขายตัวในอัตราที่ช้าลงเนื่องจากการส่งออกและการผลิตที่อ่อนแอ ซึ่งนับเป็นการปรับลดการประเมินเศรษฐกิจรายเดือนเป็นครั้งแรกในรอบ 15 เดือน
ฮิโรโกะ โอตะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและนโยบายการคลังญี่ปุ่น ปฏิเสธว่าไม่มีความจำเป็นที่รัฐบาลต้องใช้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจในทันที แม้จะยอมรับว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก อาจทรุดลงจนเข้าสู่ภาวะหยุดนิ่ง
ทั้งนี้ แม้รายงานประจำเดือนกุมภาพันธ์ของสำนักรัฐมนตรีญี่ปุ่นระบุว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงขยายตัวเป็นเดือนที่ 73 ติดต่อกัน แต่การชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของญี่ปุ่น และส่งผลต่อเนื่องไปถึงการขยายตัวของผลผลิตอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นด้วย
รายงานเดือนก.พ.ระบุว่า "เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังฟื้นตัวที่ระดับปานกลางในช่วงนี้" เปรียบเทียบกับรายงานในเดือนม.ค.ที่ระบุว่า "เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว ขณะที่มีความอ่อนแอปรากฏให้เห็นอยู่บ้าง"
รัฐบาลกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนับเป็นการปรับทบทวนลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2549
"ความเสี่ยงขาลงขยายตัวขึ้น" โอตะกล่าวในการแถลงข่าวหลังจากคณะรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรียาสุโอะ ฟูกูดะ รับรองรายงานดังกล่าว "เราต้องระมัดระวังเกี่ยวกับอนาคต"
นางโอตะกล่าวว่า เร็วเกินไปที่จะบอกว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นอยู่ในระดับคงที่ แต่ก็กล่าวเสริมว่า "มีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจอาจหยุดนิ่งเนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ"
รัฐบาลระบุในรายงานว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเป็นปัจจัยที่อยู่เบื้องหลังการปรับลดการประเมินในครั้งนี้ โดยในการสำรวจล่าสุดที่จัดทำโดยกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมนั้น บรรดาผู้ผลิตคาดว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนม.ค.จะร่วงลง 0.4% จากเดือนธ.ค. และในเดือนก.พ.จะลดลง 2.2% จากเดือนม.ค.
โดยสำนักรัฐมนตรีได้ปรับลดการประเมินผลผลิตอุตสาหกรรมเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน ระบุว่า "ผลผลิตอุตสาหกรรมกำลังขยายตัวในระดับที่ช้าลง"
นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ปรับลดการประเมินการส่งออกเป็นครั้งแรกในรอบ 17 เดือน เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความต้องการในประเทศและการส่งออกไปสหรัฐอเมริกาและยุโรปที่ซบเซาลง สำนักข่าวเกียวโดรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--