ธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า ราคาสินค้าจะยังคงทรงตัวในระดับสูงตลอดครึ่งปีแรกนี้ เนื่องจากจีนมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะเงินเฟ้อเพิ่มมากขึ้น
ธนาคารกลางระบุในรายงานด้านนโยบายการเงินว่า โครงสร้างผลผลิตสินค้าที่ไม่เพียงพอ ทำให้จีนพึ่งการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศที่มีราคาสูง ซึ่งภาวะดังกล่าวอาจส่งผลให้ราคาสินค้าในประเทศทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อไปอีกระยะหนึ่ง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI)ของจีนซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดภาวะเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 11 ปีแตะที่ 7.1% เมื่อเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากพายุหิมะได้ทำให้การคมนาคมขนส่งและกระแสไฟฟ้าถูกตัดขาด และส่งผลให้ราคาอาหารและพลังงานปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้ ราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้นอาจส่งผลกระทบลุกลามไปยังภาคธุรกิจอื่นๆ ซึ่งจะทำให้ต้นทุนสินค้าและแรงงานปรับตัวเพิ่มขึ้นตามมา
นายหม่า จุน หัวหน้านักเศรษศาสตร์จากดอยซ์ แบงค์ ในประเทศจีนกล่าวว่า นับตั้งแต่เกิดเหตุพายุหิมะถล่มจีนเมื่อช่วงกลางเดือนม.ค.เป็นต้นมา ผลกระทบจากภัยธรรมชาติที่ส่งผลร้ายแรงต่ออัตราเงินเฟ้อก็ยิ่งปรากฏให้เห็นเด่นชัดขึ้นในเดือนก.พ.
"จีนจะยิ่งเผชิญแรงกดดันเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นจากเดือนม.ค. และมีความเป็นไปได้ว่า ดัชนี CPI จะขยายตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ที่ 7.8% ในเดือนก.พ. และอาจทะยานขึ้นแตะ 8% ในเดือนมี.ค." นายหม่ากล่าว
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล โทร.0-2253-5050 อีเมล์: orasa@infoquest.co.th--