กระทรวงการคลังชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กไทยคู่ฟ้า กรณีที่โซเชียลมีเดียแชร์ข้อความว่า ไม่สามารถจ่ายเงินผ่านแอพพลิเคชันเป๋าตังในโครงการ "ชิม ช้อป ใช้" ได้ว่า จากการตรวจสอบยืนยันว่าประชาชนส่วนใหญ่สามารถใช้แอพพลิเคชันเป๋าตังและแอพพลิเคชันถุงเงินได้ปกติ ระบบไม่ได้ขัดข้อง
แต่ผู้ที่ใช้งานจะต้องเปิดการระบุสถานที่บนสมาร์ทโฟน (โลเคชัน เซอร์วิส) กับแอพพลิเคชันไว้ด้วย เพื่อให้สามารถตรวจสอบและรับรู้ถึงพิกัดในจังหวัดที่ไปใช้จ่ายจริง เนื่องจากทั้ง 2 ระบบนี้ จะทำงานร่วมกับโลเคชัน เซอร์วิสบนโทรศัพท์ เพื่อยืนยันสถานะร้านค้าและผู้จ่ายเงินว่าไปใช้ตามสิทธิในจังหวัดที่ได้ยืนยันไว้ตั้งแต่แรก ไม่เช่นนั้นจะใช้ชำระสินค้าไม่ได้
ส่วนกรณีที่มีผู้ได้รับสิทธิแล้ว ไม่สามารถยืนยันตัวตน ผ่านการแสดงใบหน้าได้นั้น ขอให้เดินทางไปที่สาขาของ ธนาคารกรุงไทย (KTB) ที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อรับบริการจากเจ้าหน้าที่ได้ทันที เพราะบางคนอาจมีใบหน้าแตกต่างจากบัตรประชาชน
ทั้งหมดนี้เป็นกระบวนการที่ทำให้เกิดความรอบคอบในการตรวจสอบสิทธิ เพื่อป้องกันการสวมสิทธิในการใช้งาน
นอกจากนี้ กรณีร้านค้าที่รับจ่ายเงินในโครงการชิมช็อปใช้ เมื่อตัดเงินออกจากแอพพลิเคชันเป๋าตังของลูกค้าแล้ว ปรากฎว่าไม่มียอดเงินเข้าแอพพลิเคชันถุงเงินนั้น ขอให้ร้านค้าไม่ต้องตกใจ เพราะเป็นระบบปกติของธนาคารกรุงไทย โดยเมื่อมีการใช้เงิน ยอดจะถูกตัดเข้าบัญชีในอีก 1 วันทำการ (ในวันราชการ)
ดังนั้น หากมีการใช้จ่ายในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ยอดเงินก็จะเข้าแอพพลิเคชันในวันจันทร์ จึงขอให้ประชาชนที่ใช้สิทธิและร้านค้าใช้จ่ายในมาตรการได้ตามปกติ