สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) ปรับคาดการณ์แนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจ(GDP)ไทยในปี 51 เพิ่มเป็น 4.5-5.5% ซึ่งสูงกว่าเดิมที่เคยคาดไว้ที่ 4.0-5.0% และจากปี 50 ที่ GDP เติบโต 4.8% เนื่องจากการลงทุนภาคเอกชนมีสัญญาณฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาดตั้งแต่ไตรมาส 4/50 ประกอบกับการส่งออกช่วงปลายปี 50 และเดือนม.ค.51 ยังมีแนวโน้มที่ดี
สภาพัฒน์เชื่อว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจปี 51 จะมีลักษณะที่สมดุลมากขึ้นจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศ โดยมีปัจจัยหนุน เช่น การดำเนินนโยบายงบประมาณขาดดุล อัตราดอกเบี้ยต่ำ ความเชื่อมั่นของประชาชนและภาคธุรกิจดีขึ้น แต่ทั้งนี้ยังมีข้อจำกัดจากปัจจัยภายนอก คือราคาน้ำมันที่สูงขึ้นและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะสหรัฐ
*GDP ไตรมาส 4/50 โต 5.7%,ทั้งปี 50 โต 4.8%
สภาพัฒน์ แถลงว่า GDP ช่วงไตรมาส 4/50 ขยายตัว 5.7% สูงกว่าการขยายตัวเฉลี่ย 4.4% ในสามไตรมาสแรก และการขยายตัวเริ่มมีความสมดุลมากขึ้น แม้ว่าการส่งออกสุทธิจะยังเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก แต่การใช้จ่ายรัฐบาลก็เพิ่มขึ้นมากและการใช้จ่ายและการลงทุนภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ทั้งปี 50 เศรษฐกิจไทยขยายตัว 4.8%
ภาพรวมเศรษฐกิจยังมีเสถียรภาพ แต่แรงกดดันเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ในไตรมาสสี่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเท่ากับ 2.9% สูงกว่าเฉลี่ย 2.0% ในสามไตรมาสแรก ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 6.18 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ทั้งปีอัตราเงินเฟ้อเท่ากับ 2.3% ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 14.92 พันล้านดอลลาร์หรือ 6.1% ของ GDP และอัตราการว่างงานเฉลี่ยเท่ากับ 1.4%
ตลอดปี 50 ที่ผ่านมามีปัจจัยที่สนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ ประกอบด้วย ภาวะเศรษฐกิจของประเทศส่งออกสำคัญของไทยขยายตัวสูงและเอื้อประโยชน์ต่ อการส่งออกของไทย การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณรัฐบาลและงบลงทุนรัฐวิสาหกิจอย่างต่อเนื่อง อัตราดอกเบี้ยต่ำลงในครึ่งแรกของปี และความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคธุรกิจเริ่มดีขึ้นในช่วงปลายปี
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--