บรรดานักวิเคราะห์ต่างพากันแสดงทัศนะว่า นายลี เมียง-บัค ประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้จะเผชิญกับอุปสรรคในการกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจเป็นครั้งแรก ท่ามกลางกระแสความหวั่นวิตกในตลาดเงินทั่วโลก ขณะที่ราคาวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้น
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า นายลีได้ชูนโยบายที่สนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจหลายด้าน ซึ่งรวมถึงการผ่อนคลายกฎข้อบังคับ การแปรรูปรัฐวิสากิจ การปรับลดภาษี และการสร้างบรรยากาศทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นแก่นักลงทุนต่างชาติ
โดยนโยบาย "747" ของนายลีมุ่งเป้าที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวขึ้น 7% ในระหว่างที่เขาอยู่ในวาระ 5 ปี โดยมุ่งวางรากฐานในการเพิ่มรายได้ของประชากรต่อหัวที่ 40,000 ดอลลาร์สหรัฐภายใน 10 ปี และผลักดันให้เกาหลีใต้ก้าวไปสู่ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 7ของโลก
ทั้งนี้ นายลีเคยสร้างผลงานในการช่วยให้เศรษฐกิจเกาหลีใต้ขยายตัวอย่างรุ่งเรืองในช่วงก่อนหน้านี้ ในฐานะที่ดำรงตำแหน่งเป็นประธานฝ่ายบริหารของบริษัทฮุนได เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น
นอกจากนี้ ชาวเกาหลีใต้ยังเชื่อมั่นในศักยภาพการเป็นประธานาธิบดีของเขา เมื่อพิจารณาถึงผลงานที่ผ่านมาในฐานะที่เคยดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีกรุงโซล ซึ่งเขาได้สร้างผลงานชิ้นโบแดงด้วยการปรับปรุงทัศนียภาพบริเวณลำธารที่ไหลผ่านใจกลางกรุงโซล
อย่างไรก็ตาม แม้นายลีจะมีประวัติการทำงานที่โชกโชน แต่นักวิเคราะห์กล่าวว่าเขาจะต้องพบอุปสรรคที่หนักหนาสาหัสในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวขึ้นท่ามกลางภาวะความไม่แน่นอนในตลาดเงินทั่วโลก ขณะที่ราคาวัตถุดิบรวมถึงราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น และในยามที่เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว
เดเนียล เมลเซอร์ นักวิเคราะห์จาก Moody's Economy.com กล่าวว่า "หลายฝ่ายยังมีข้อกังขาต่อนโยบายของนายลี หลังจากที่ประธานาธิบดีคนก่อนหน้านี้ก็เคยชูแผนการปฎิรูปเศรษฐกิจในลักษณะเดียวกันนี้ แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ"
"มีความเป็นไปได้ว่าประธานาธิบดีเกาหลีใต้คนใหม่จะเผชิญกับอุปสรรคเช่นเดียวกับผู้นำประเทศคนก่อน ดังนั้นเราไม่ควรตั้งความหวังสูงนักว่าแผนการปฎิรูปเศรษฐกิจจะได้ผล"นายเดเนียลกล่าว
อย่างไรก็ดี นโยบายดังกล่าวจะช่วยพยุงเศรษฐกิจและช่วยสกัดการขยายตัวของเงินเฟ้อได้ในระยะสั้นๆ" นายเดเนียลกล่าว
ทั้งนี้ นายลีได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ตลอดทั้งปีนี้ลงมาอยู่ที่ 6% ขณะที่ธนาคารกลางเกาหลีใต้ประมาณการว่า เศรษฐกิจจะชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 4.7% จากระดับ 7.9% ในปี 2550 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อถีบตัวสูงขึ้น 3.93% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 39 เดือน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--