นายอุตตม สาวนายน รมว.การคลัง กล่าวภายหลังเป็นประธานการเปิดสัมมนาของบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ในหัวข้อ "Global Risks & Thailand’s Economic Outlook ว่า ฟิทช์ฯ ยังมองว่าเศรษฐกิจไทยในระยะยาวยังมีโอกาสที่ดีจากการที่รัฐบาลเดินหน้าแผนการพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์ทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคม ทำให้ประเทศไทยยังมีความน่าสนใจและได้รับความสนใจจากนักลงทุนในระดับโลก สะท้อนจากตัวเลขการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ที่พบว่านักลงทุนต่างชาติยื่นขอลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ในเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ฟิทช์ฯ ได้ปรับเครดิตของประเทศไทยขึ้นไปอยู่ในระดับที่มุมมองเป็นบวกจากเดิมอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะมีความผันผวนรุนแรง และหลายประเทศถูกปรับลดหรือคงอันดับเครดิตไว้เท่าเดิม ถือว่าไทยเป็นกลุ่มประเทศส่วนน้อยที่ฟิทซ์ฯ ปรับเครดิตของประเทศให้ดีขึ้น
"เหตุผลสำคัญที่ฟิทช์ เรทติ้งส์ ปรับเครดิตประเทศไทยมากขึ้น เพราะมองว่าเศรษฐกิจไทยระยะยาวมีโอกาสที่ดี จากที่รัฐบาลเดินแผนการพัฒนาประเทศได้ตามยุทธศาสตร์ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม ประเทศไทยจึงเป็นที่สนใจของนักลงทุนระดับโลก สอดคล้องกับตัวเลขขอส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอที่เพิ่มขึ้น" นายอุตตม กล่าว
สำหรับความคืบหน้าเรื่องการขายหน่วยลงทุนกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์) รอบใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเปิดขายหน่วยลงทุนได้ในต้นปี 2563 ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างประสานหน่วยงานเจ้าของโครงการ 2-3 โครงการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการของกระทรวงคมนาคม เพื่อนำโครงการที่มีรายได้มาเข้าระดมทุนในกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ เพื่อไปลงทุนในโครงการใหม่ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของกระตุ้นการลงทุนภาครัฐให้ได้มากและเร็วขึ้น