นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า คาดว่าจะเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากขยะชุมชนใหม่ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าระยะยาวของประเทศพ.ศ.2561-2580 (PDP2018) รวม 400 เมกะวัตต์ (MW) ได้ในช่วงปลายปี 62 หรือต้นปี 63 เพราะจะต้องทยอยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ภายในปี 65 แต่การดำเนินการดังกล่าวยังต้องรอการพิจารณาจากกระทรวงมหาดไทย เพื่อนำเสนอโครงการเข้ามาให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ก่อน ส่วนอัตราการรับซื้อโดยส่วนตัวมองว่าน่าจะเป็นอัตราเดิม แต่ก็ต้องรอความชัดเจนจากนโยบายรัฐด้วย
ส่วนโรงไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรม ที่รับซื้อปริมาณ 30.78 เมกะวัตต์ (MW) จำนวน 7 โครงการ เมื่อช่วงปลายปี 59 และจะต้องจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบภายในปี 62 นั้น ล่าสุดพบว่ามีบางโครงการอาจจะไม่สามารถจ่ายไฟฟ้าได้ทันเพราะติดปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งทางกกพ. จะต้องพิจารณาต่อไป
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันกระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างทบทวนแผน PDP2018 ซึ่งคาดว่าจะเป็นการปรับรายละเอียดภายในให้มีความชัดเจนมากขึ้น หลังจากที่รัฐบาลมีแผนจะเกิดโรงไฟฟ้าชุมชน โรงไฟฟ้าจากพืชพลังงาน เป็นต้น โดยรายละเอียดทางกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) อยู่ระหว่างศึกษา และรอนโยบายจากกระทรวงพลังงานที่ชัดเจนออกมา หลังจากนั้นก็ต้องมีการนำเสนอคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) และคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ต่อไป
ทั้งนี้ การทบทวนแผน PDP2018 ดังกล่าว ทำให้ต้องมีการทบทวนร่างแผนพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก พ.ศ.2561-2580 (AEDP2018) ใหม่หลังจากได้มีการทำประชาพิจารณ์ไปบ้างแล้ว หลังจากนั้นก็จะจัดทำแผนอนุรักษ์พลังงานของประเทศ (EEP) ใหม่ ,แผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ (Gas Plan) เป็นลำดับต่อไปส่วนการจัดทำแผนบริหารจัดการน้ำมัน (Oil Plan) เป็นหน้าที่ของกรมธุรกิจพลังงานที่จะเป็นผู้จัดทำรายละเอียดต่อไป
นายวัฒน์พงษ์ กล่าวอีกว่า ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (peak) ปีนี้เกิดขึ้น ณ วันที่ 3 พ.ค.62 ที่ 32,273 เมกะวัตต์ ขณะที่ ณ เดือนมิ.ย.62 มีกำลังผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 46,931 เมกะวัตต์ โดยการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 6.6% ส่วนการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 5.8% ซึ่งเป็นการใช้เพิ่มขึ้นในทุกสาขาเศรษฐกิจ ประกอบกับอุณหภูมิสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยสัดส่วนการผลิตไฟฟ้า ส่วนใหญ่ 58% มาจากก๊าซธรรมชาติ ,ถ่านหินนำเข้า/ลิกไนต์ 17% ,นำเข้าไฟฟ้าจากต่างประเทศ 11% ,พลังงานหมุนเวียน 10% , พลังน้ำ 3% และน้ำมัน 0.7%