มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งล่าสุดของปากีสถานถือเป็นการเปิดโอกาสให้รัฐบาลผสมชุดใหม่รื้อฟื้นหลักนิติธรรม บรรเทาความแตกแยกของสถาบัน รวมถึงลดความตึงเครียดเกี่ยวกับปัญหาดินแดน ศาสนา และเชื้อชาติ
"การเลือกตั้งในครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ กระตุ้นธุรกิจและนักลงทุนในประเทศ และรื้อฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ รวมทั้งเป็นการสนับสนุนการเปลี่ยนแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือจากติดลบเป็นมีเสถียรภาพ" อนินดา มิตรา รองประธานและหัวหน้านักวิเคราะห์จากมูดี้ กล่าว
อย่างไรก็ตาม มูดี้ส์ยังคงอันดับความน่าเชื่อถือของปากีสถานไว้ที่ระดับ "B1" จนกว่าพรรคการเมืองหลักทั้งสองพรรคจะแสดงให้เห็นว่ามีศักยภาพพอที่จะฟื้นฟูเสถียรภาพทางการเมืองและสร้างรัฐบาลที่มีความมั่นคงได้ ซึ่งเป็นการพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่าพรรคประชาชนปากีสถาน (พีพีพี) และพรรคปากีสถานมุสลิม ลีก (พีเอ็มแอล-เอ็น) มีประวัติไม่ถูกกันมาก่อน อีกทั้งยังมีอุดมการณ์ต่างกันอีกด้วย
"ปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลต่อการปรับอันดับความน่าเชื่อถืออาจเกิดขึ้นจากการต่อสู้ทางการเมือง การเปลี่ยนแปลงนโยบาย ภาวะเงินเฟ้อที่ย่ำแย่ลง เสถียรภาพทางการเมืองและสังคม รวมถึงโครงสร้างงบประมาณที่อาจส่งผลให้เศรษฐกิจมหัพภาคย่ำแย่ลงกว่าเดิม" มิตรากล่าว สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียล รายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--