นักวิเคราะห์ของสำนักข่าวซินหัวคาดการณ์ว่า การที่ผลิตภัณฑ์พื้นฐานในภาคอุตสาหกรรมอย่าง เหล็กและน้ำมัน มีราคาพุ่งสูงขึ้นมาก อาจจะทำให้เกิดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในจีนมากขึ้น
เมื่อเร็วๆนี้ มีรายงานว่า บริษัทเป๋าสตีล ซึ่งเป็นบริษัทเหล็กยักษ์ใหญ่ของจีนวางแผนที่จะขึ้นราคาผลิตภัณฑ์ไตรมาส 2 ในช่วงสิ้นเดือนก.พ. ขณะที่บริษัทเหล็กรายใหญ่ของต่างประเทศก็กำลังขึ้นราคาผลิตภัณฑ์ของตนเช่นกัน
ทั้งนี้ อาร์เซลอร์มิททัล บริษัทเหล็กรายใหญ่ที่สุดของโลกได้ประกาศแผนการขึ้นราคาเหล็กในสหรัฐและยุโรปอีก 10-15% เพื่อชดเชยกับต้นทุนที่สูงขึ้น และยังสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการเหล็กที่แข็งแกร่งทั่วโลก และเมื่อวันที่ 19 ก.พ. บริษัทเหล็กของญี่ปุ่นก็ได้ประกาศขึ้นราคาเหล็กอีกกว่า 10%
ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมัน ซึ่งถือเป็นอีกเส้นเลือดหลักของอุตสาหกรรมต่างๆทั่วโลก ดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์เมื่อวันที่ 19 ก.พ.ในตลาดน้ำมัน NYMEX โดยราคาดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรก
นักวิเคราะห์ของซินหัวคาดการณ์ว่า ความผันผวนของราคาน้ำมันและเหล็กจะส่งผลกระทบอย่างมากกับเศรษฐกิจจีน โดยราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้นในตลาดปลายน้ำจะยิ่งเพิ่มแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ และแนวโน้มที่เกิดขึ้นนี้จะทำให้ทรัพยากรประเภทอื่นๆปรับตัวสูงขึ้น
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--