นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนตามนโยบายของนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน โดยคาดว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ เบื้องต้นจะเป็นลักษณะการผลิตไฟฟ้าแบบผสมผสานเชื้อเพลิง(Hybrid) ซึ่งสามารถใช้ระบบโซลาร์ผลิตไฟฟ้าได้ด้วย และโครงการอาจจะใช้สัดส่วนตามการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์ภาคประชาชน ที่กำหนดไว้ 1 หมื่นเมกะวัตต์ (MW) ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าระยะยาว พ.ศ.2561-2580 (PDP2018) ซึ่งอยู่ระหว่างการปรับแผนโครงการดังกล่าวใหม่ เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่าไม่ได้รับการตอบรับจากภาคประชาชนมากนัก
สำหรับแนวโน้มยอดติดตั้งโซลาร์ภาคประชาชนสำหรับปี 2562 อาจจะทำไม่ได้ตามเป้าหมาย 100 เมกะวัตต์ ตามที่กระทรวงกำหนดเป้าหมายจะมีกำลังการผลิต 100 เมกะวัตต์/ปี เป็นเวลา 10 ปี รวม 10,000 เมกะวัตต์ ทำให้ต้องปรับแผนโครงการใหม่สำหรับปี 2563 ซึ่งจะนำไปพิจารณาปรับในแผนPDP2018 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 โดยโครงการโซลาร์ภาคประชาชนจะยังคงดำเนินการต่อไป แต่จะปรับเป้าหมายรับซื้อต่อปีให้สอดคล้องกับความเป็นจริงมากขึ้น พร้อมนำปริมาณโควตาโซลาร์ภาคประชาชน 10,000 เมกะวัตต์ ส่วนเกินไปเฉลี่ยให้กับโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน ส่วนราคารับซื้อไฟฟ้าโครงการโซลาร์ภาคประชาชนสำหรับปี 2563 นั้น จะอยู่ที่ระดับ 1.68 บาท/หน่วยหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการพิจารณา แต่จะต้องอยู่บนพื้นฐานไม่กระทบต่อค่าไฟฟ้าโดยรวม
ด้านนายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กล่าวว่า ตั้งแต่เปิดดำเนินโครงการโซลาร์ภาคประชาชนตั้งแต่เดือน พ.ค.62 มีผู้สนใจค่อนข้างต่ำ ทำให้กกพ.กำลังพิจารณาทบทวนโครงการดังกล่าวเร็ว ๆ นี้และได้นำเสนอรายงานไปยังกระทรวงพลังงานเบื้องต้นแล้ว ซึ่งล่าสุด ณ วันที่ 30 ก.ย.62 มีผู้สมัครร่วมโครงการและได้ทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแล้ว 121 ราย รวมประมาณ 685 กิโลวัตต์ เนื่องจากโครงการเป็นการผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้เองเป็นหลักหากเหลือให้ขายไฟฟ้าเข้าระบบ แต่ประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจผิดว่าเป็นการเน้นผลิตเพื่อขายไฟฟ้า
สำหรับโครงการ "โซลาร์ภาคประชาชน" กกพ.เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค.62 เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนผู้ใช้พลังงาน ประเภทครัวเรือนขนาดเล็ก(ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่1) ได้ติดตั้งอุปกรณ์แผงเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้เอง และนำส่วนเกินที่เหลือจากการใช้ ไปขายต่อให้กับการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย โดยมีกำลังผลิตติดตั้งครัวเรือนละไม่เกิน 10 กิโลวัตต์ (kWp) กำหนดอัตราราคารับซื้อไฟฟ้า ที่ 1.68 บาท/หน่วย