นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้หารือถึงแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ โดยสั่งการให้กระทรวงการคลัง, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ วางแผนกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเน้นให้การท่องเที่ยวเป็นตัวชูโรง รวมถึงเร่งขยายโครงการชิมช้อปใช้ ภาค 2 ให้ครอบคลุมไปถึงเศรษฐกิจในระดับชุมชนด้วย ซึ่งในกรณีนี้สามารถใช้ฐานข้อมูลลูกค้าที่มีอยู่กว่า 1 แสนรายของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารออมสิน เข้ามาเพื่อช่วยในการขยายโครงการให้ครอบคลุม
"โครงการชิมช้อปใช้ จะทำให้เศรษฐกิจฐานล่างดีขึ้น เกิดการหมุนเวียน ซึ่งปริมาณร้านค้าและคนที่เข้าร่วมเป็นเรื่องสำคัญ อีกทั้งทำให้ประเทศได้ประโยชน์ ทั้งเรื่องการใช้เงินผ่านระบบดิจิทัลด้วย ดังนั้นอย่ามองแค่ว่าใช้เงินอย่างเดียว แต่เป็นการเปลี่ยนผ่านระบบเศรษฐกิจ แต่จะต้องไปดูว่าร้านค้าจะเพิ่มแบบไหน ใครมาร่วมบ้าง และคนที่ใช้สิทธิจะขยายอย่างไร ส่วนเรื่องงบประมาณมาดูทีหลัง ต้องดูประโยชน์ก่อน และค่อยมาจัดสรรงบประมาณ กระทรวงการคลังจะคำนึงถึงวินัยการเงินการคลังแน่นอน" รองนายกรัฐมนตรีระบุ
นายสมคิด ยอมรับว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 มีแนวโน้มยังไม่ค่อยดีเช่นเดียวกับไตรมาส 2 ที่ผ่านมา จึงได้ขอให้กระทรวงการคลัง รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันระดมความคิด เพื่อต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 ซึ่งล่าสุดจากการออกโครงการ ชิม ช็อป ใช้ ถือว่าได้รับผลตอบรับที่ดีจากประชาชนและร้านค้า นอกจากนี้ รัฐบาลจะพยายามส่งเสริมให้หน่วยงานต่างๆ จัดประชุมสัมมนาในช่วงปลายปี ซึ่งจะช่วยเชื่อมโยงกับโครงการ 100 เดียวเที่ยวทั่วไทย ที่น่าจะมีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยไทยในไตรมาส 4 ได้
นอกจากนี้ รัฐบาลได้เตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หากเห็นว่ามีความจำเป็น รวมทั้งให้กระทรวงการคลังเร่งเดินหน้าโครงการประชารัฐสร้างไทย เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญในการปฏิรูปเศรษฐกิจ การทำเกษตรแปรรูป เศรษฐกิจชุมชน การท่องเที่ยวชุมชน โดยจะเริ่มที่ภาคเหนือ ที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นอันดับแรก
ด้านนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กล่าวว่า แนวทางการขยายโครงการชิมช้อปใช้ ภาค 2 นั้น จะเปิดโอกาสให้ประชาชน และร้านค้าชุมชนเข้ามาร่วมโครงการได้มากขึ้น ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวนั้นได้หารือกับ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬนาว่า เมื่อมีโครงการชิมช้อปใช้ ภาค 2 แล้ว จะต้องมีมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวมาช่วยสนับสนุน ซึ่งจะทำให้สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ได้อย่างมีพลังมากขึ้น
"ชิมช้อปใช้ เฟส 2 จะเปิดโอกาสให้คนเข้ามาลงทะเบียนเพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่กำหนดไว้ 10 ล้านคน รวมถึงเปิดให้ร้านค้าขนาดเล็กของธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส.ที่มากกว่า 1 แสนร้านเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งมาตรการชิมช้อปใช้ เฟส 2 จะช่วยส่งต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้มากกว่าระยะแรก" รมว.คลังระบุ