ร.ท.กมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) และในฐานะประธานคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 (ท่าเทียบเรือ F) เปิดเผยว่า ในการประชุมวันนี้ ได้แจ้งให้คณะกรรมการได้ทราบถึงคำสั่งศาลปกครองที่สั่งให้ถอนคำสั่งของคณะกรรมการคัดเลือกฯ ที่พิจารณาให้กลุ่มกิจการร่วมค้า NCP เป็นผู้ไม่ผ่านการพิจารณาด้านคุณสมบัติ เมื่อวันที่ 23 เม.ย. 2562 โดยให้การเพิกถอนมีผลย้อนหลังไปถึงวันที่คณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้มีคำสั่ง
พร้อมทั้งมีคำสั่งตามคำขอบรรเทาทุกข์ชั่วคราวของฝ่ายผู้ฟ้องคดีโดยให้ทุเลาการบังคับตามคำสั่งที่พิพาทไว้เป็นการชั่วคราวในระหว่างที่คดียังไม่ถึงที่สุด ซึ่งคำสั่งของคณะกรรมการคัดเลือกฯ ที่ตัดสิทธิ์กิจการร่วมค้า NCP ดังกล่าว เป็นคำสั่งทางปกครองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากขัดต่อข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย
ร.ท.กมลศักดิ์ กล่าวว่า คณะกรรมการมีสิทธิอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน และนายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) หรือ EEC ได้ทำหนังสือต่ออธิบดีอัยการให้จัดอัยการมาพิจารณาว่าจะอุทธรณ์หรือไม่ ซึ่งขั้นตอนนี้ขึ้นกับอัยการ
"เรายังรออัยการอยู่ว่าจะอุทธรณ์ หรือไม่อุทธรณ์ และให้ทีมที่ปรึกษาของโครงการ นักกฎหมายของอีอีซี และ การท่าเรือช่วยดูรายละเอียดข้อกฎหมาย "
ทั้งนี้ หากอัยการเห็นสมควรอุทธรณ์ ก็จะดำเนินการทำคำให้การต่อไป
อนึ่ง โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟสที่ 3 มี 2 กลุ่มกิจการร่วมค้ายื่นซองประมูล ได้แก่ กิจการร่วมค้า NCP ประกอบด้วย บริษัท นทลิน จำกัด บมจ. พริมา มารีน (PRM) บริษัท แอสโซซิเอท อินฟินิตี้ จำกัด บริษัท PHS Organic farming จำกัด และ บริษัท China Railway construction Corporation จำกัด
และ กลุ่มกิจการร่วมค้า GPC ซึ่งประกอบด้วยบริษัท พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ในเครือ ปตท., บมจ. กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเม้นท์ (GULF), บริษัท ไชน่า ฮาร์เบอร์ เอ็นจีเนียริ่ง จำกัด จากประเทศจีน