ธนาคารกลางจีนคาด CPI จะยังคงอยู่ในระดับสูงในช่วงครึ่งแรกของปี 51

ข่าวต่างประเทศ Monday February 25, 2008 14:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ธนาคารกลางจีนคาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะยังคงอยู่ในระดับสูงตลอดช่วงครึ่งแรกของปี 2550 เนื่องจากจีนยังคงเผชิญความเสี่ยงด้านอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น
โดยรายงานด้านนโยบายการเงินของจีนในช่วงไตรมาสที่ 4 ซึ่งชี้ให้เห็นว่า ปัญหาการขาดแคลนอุปทานและราคาสินค้าทั่วโลกที่พุ่งสูงขึ้น จะเป็นปัจจัยที่ทำให้ CPI ในประเทศยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไปอีกสักระยะ
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อ ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 11 ปีที่ 7.1% เมื่อเดือนที่แล้ว เนื่องจากเหตุพายุหิมะพัดถล่มส่งผลให้การคมนาคมหยุดชะงักและขาดแคลนพลังงาน ส่งผลให้ราคาอาหารและพลังงานสูงขึ้น
นักวิเคราะห์กล่าวว่า แม้ว่าราคาสินค้าทางการเกษตรดิบจะพุ่งขึ้นเมื่อเดือนที่ผ่านมา แต่โดยปกติแล้วต้องใช้เวลา 1 หรือ 2 เดือนในการแปรรูปสินค้าดังกล่าวให้กลายเป็นอาหาร ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่เพิ่มแรงกดดันให้กับอัตราเงินเฟ้อในเดือนต่อไป
ราคาอาหารอาจส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจอื่นๆ และส่งผลให้ราคาสินค้าอื่นๆรวมถึงต้นทุนแรงงานปรับตัวสูงขึ้น
นายหม่า จุน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากดอยช์ แบงค์ ในจีนกล่าวว่า นับตั้งแต่เกิดเหตุพายุหิมะพัดถล่มเมื่อช่วงกลางเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ภัยพิบัติดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อประเทศในเดือนก.พ.
"แรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นนอกจากจะส่งผลกระทบต่อตัวเลข CPI ในเดือนม.ค.อย่างหนักแล้ว ยังคาดว่าจะส่งผลให้ CPI ในเดือนก.พ.เพิ่มขึ้นแตะ 7.8% และพุ่งขึ้นแตะ 8% ในเดือนมี.ค." เขากล่าว
หนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี่ รายงานโดยอ้างคำกล่าวของนายซัน ลีเจี้ยน นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ ฟูดานว่า สภาพอากาศที่เลวร้ายในจีนอาจส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานในสินค้าบางประเภท ซึ่งอาจต้องใช้เวลาสักระยะกว่าจะฟื้นตัวขึ้น แต่เมื่ออุปานฟื้นตัวขึ้นและรัฐบาลกำหนดนโยบายคุมเข้มเศรษฐกิจระดับมหภาคแล้ว แรงกดดันดังกล่าวจะคลี่คลายลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ