นายศุภชัย จุนเกียรติ ผู้อำนวยการสายงานการตลาดโกลเบิล กลุ่มธุรกิจ TCP ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์กระทิงแดง (เรดบูล) เรดดี้ โสมพลัส สปอนเซอร์ แมนซั่ม เพียวริคุ ซันสแนค และวอริเออร์ เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวเครื่องดื่มสปอนเซอร์ แอคทีฟ ซีรีส์ ซึ่งเป็นการพัฒนาเครื่องดื่มสปอร์ตดริ้งค์ภายใต้แบรนด์ "สปอนเซอร์" เพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ไม่ได้เน้นไปที่การออกกำลังกายอย่างเดียวเท่านั้น แต่จะเป็นการเจาะกลุ่มไปที่ผู้บริโภควัยรุ่นและวัยทำงานที่มีไลฟ์สไตล์แอคทีฟ ต้องการเติมความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า เพื่อความพร้อมในการทำกิจกรรมระหว่างวัน ที่สามารถช่วยดับกระหายและชดเชยการเสียน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย พร้อมได้รับประโยชน์จากวิตามินซีที่เพิ่มเข้ามา ซึ่งสูงถึง 200 เท่า ในราคาขวดละ 10 บาท เท่ากับสปอนเซอร์ ออริจินัล
สำหรับเครื่องดื่มสปอนเซอร์ แอคทีฟ ซีรีส์ จะเข้ามาช่วยเติมช่องว่างทางการตลาดของเครื่องดื่มสปอร์ตดริงค์ ที่กลุ่มผู้บริโภคส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มผู้ใช้แรงในการทำงานและการออกกำลังกาย ซึ่งโดยปกติจะเลือกซื้อเครื่องดื่มสปอนเซอร์ ออริจินัล ซึ่งมีสัดส่วนสูงถึง 90% ของกลุ่มผลิตภัณฑ์สปอร์ตดริ้งค์ในกลุ่ม TCP โดยที่เครื่องดื่มสปอนเซอร์ แอคทีฟ ซีรีส์ จะเข้ามาขยายฐานผู้บริโภคที่กว้างมากขึ้นในกลุ่มคนรุ่นใหม่และสร้างความเข้าใจใหม่ให้กับกลุ่มผู้บริโภคอื่น ๆ ซึ่งจะเข้ามามีสัดส่วนในกลุ่มผลิตภัณฑ์สปอร์ตดริ้งค์ในกลุ่ม TCP ราว 6-8% ซึ่งบริษัทได้มีการปรับตราสินค้า การออกแบบขวดใหม่ และปรับสูตรให้เข้าถึงง่ายมากขึ้น โดยลดน้ำตาลลงเหลือสัดส่วน 6-8% จากสปอนเซอร์ ออริจินัลที่มีน้ำตาลอยู่ที่ 10% และเพิ่มวิตามินเข้าไปเสริม
"เดิมสปอร์ตดริ้งค์เป็นเครื่องดื่มเพื่อการออกกำลังกาย และกลุ่มที่ต้องมีการใช้แรงเสียเหงื่อ ทำให้วัยรุ่นเข้าไม่ถึง เราก็ได้พัฒนาเครื่องดื่มสปอนเซอร์ แอคทีฟ ซีรีส์ ขึ้นมาเพื่อเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ปรับสูตร ปรับดีไซน์ขวด ทำให้สื่อไปถึงการใช้ไลฟ์สไตล์ที่แอคทีฟมากขึ้น เพื่อเติมช่องว่างทางการตลาด และตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดสปอร์ตดริ้งค์ในตลาด"นายศุภชัย กล่าว
ปัจจุบัน เครื่องดื่มสปอนเซอร์เป็นผู้นำตลาดสปอร์ตดริ้งค์อันดับ 1 มากว่า 30 ปี มีส่วนแบ่งตลาด 90% โดยยอดขายของสปอนเซอร์ในปี 62 บริษัทคาดว่าจะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 10% สูงกว่าภาพรวมของตลาดสปอร์ตดริ้งค์ในประเทศที่คาดว่าเติบโต 6-7% ในปีนี้ โดยที่มูลค่าตลาดรวมของผลิตภัณฑ์สปอร์ตดริ้งค์ในประเทศปีนี้คาดว่าอยู่ที่ 5 พันล้านบาท ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกสปอนเซอร์ถือเป็นแบรนด์ที่ช่วยผลักดันการเติบโตของตลาดสปอร์ตดริ้งค์ในประเทศได้อย่างมีนัยสำคัญ เพราะเป็นแบรนด์ที่มีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด โดยในครึ่งปีแรกยอดขายสปอนเซอร์เติบโต 17% ทำให้ตลาดสามารถเติบโตได้ 15% ขณะที่ในช่วงครึ่งปีแรกเป็นช่วงฤดูร้อนซึ่งเป็นไฮซีซั่นของธุรกิจ ทำให้มีการซื้อเครื่องดื่มสปอร์ตดริ้งค์มากกว่าปกติ
ขณะที่ตลาดเครื่องดื่มสปอร์ตดริ้งค์ ยังคงมีการแข่งขันที่รุนแรง จากการทำโปรโมชั่น ตัดราคาขาย จนทำให้มีผู้ประกอบการบางรายต้องออกจากตลาดไปแล้ว 2-3 รายในปีนี้ ส่วนการทำตลาดของบริษัทปีนี้จะเน้นการขยายฐานกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่มากขึ้น พร้อมโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่าน TVC ผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น พร้อมกับการใช้พรีเซนเตอร์ที่เป็นคนรุ่นใหม่เข้ามาเพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้มากขึ้น โดยใช้งบการตลาดรวมกว่า 300 ล้านบาท
สำหรับผลกระทบของการเริ่มเก็บภาษีสรรพสามิตและภาษีน้ำตาลใหม่ในวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา เครื่องดื่มประเภทสปอร์ตดริ้งค์ยังคงต้องเสียภาษีน้ำตาลเหมือนเดิม แต่จะไม่ได้รับประโยชน์เมื่อเทียบกับเครื่องดื่มประเภท Functional Drink อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะยังคงต้องเสียภาษีน้ำตาลเช่นเดิม แต่บริษัทก็ไม่ได้ปรับลดคุณภาพและปริมาณของผลิตภัณฑ์ลง รวมไปถึงไม่ได้ปรับราคาขายขึ้น ยังคงอยู่ที่ 10 บาทมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้กว้างมากขึ้น และบริษัทยังสามารถรับต้นทุนจากภาษีได้อยู่ ทำให้ไม่จำเป็นต้องผลักภาระไปให้กับผู้บริโภค ซึ่งแสดงถึงความเป็นผู้นำในตลาดสปอร์ตดริ้งค์ของสปอนเซอร์มาอย่างยาวนาน