นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กม. มูลค่า 224,544.36 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัทเจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร (CPH) เป็นผู้เสนอราคามาในอันดับ 1 นั้น โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)ได้ส่งหนังสือแจ้งเอกชนให้มาลงนามสัญญาในกำหนดวันที่ 15 ต.ค.แล้ว ดังนั้น รอดูว่าจะมาเซ็นสัญญาหรือไม่ พร้อมยืนยันว่า รัฐจะดำเนินการตาม เงื่อนไขที่กำหนดในเอกสารการคัดเลือกเอกชน (RFP) ทุกข้อ
ซึ่งเรื่องนี้อยู่ในเงื่อนไขข้อ 56.3 "สำหรับผู้ที่ได้รับคัดเลือก ซึ่งไม่ไปทำสัญญาภายในเวลาที่กำหนด จะถูกริบหลักประกันซองหรือถูกเรียกร้องจากผู้ออกหลักประกันซองทันที และอาจพิจารณาให้ชดใช้ความเสียหายอื่น (ถ้ามี) รวมทั้งอาจพิจารณาให้เป็นผู้ทิ้งงานตามระเบียบของทางราชการ"
ส่วนเรื่องการขึ้นบัญชีดำ (Black list) ไม่ได้ ซึ่งอ้างว่าใช้ กฎหมาย PPP นั้น ได้มอบหมายให้ นายชยธรรม์ พรหมศร รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ในฐานะกรรมการคัดเลือกฯ ไปตรวจสอบว่า กฎหมาย PPP และ เงื่อนไข RFP เขียนไว้อย่างไร
สำหรับกรณีที่ นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (ซี.พี.) ออกมาระบุว่า ภาครัฐควรรับความเสี่ยงร่วมกับเอกชนด้วยนั้น นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ใน RFP ข้อ 50.1 ระบุไว้ชัดเจนว่า "เอกชนผู้ยื่นข้อเสนอต้องรับภาระความเสี่ยง" และเอกชนต้องรู้ เพราะเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่อ่านเงื่อนไขใน RFP
"เป็นสิทธิที่เอกชนจะแสดงความเห็น รัฐเองต้องดูว่า ความเห็นนั้น ทางกฎหมายและ RFP ทำได้หรือไม่ หากทำได้ก็ทำ หากไม่ได้ ก็ไม่ได้ เพราะความเป็นรัฐมีหน้าที่ต้องปฏิบัติภายใต้ที่กฎหมายกำหนด"รมว.คมนาคม กล่าว
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการฯ ตามที่คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้แต่งตั้ง ประกอบด้วย นายอุตตม สาวนายน รมว.คลังเป็นประธาน และมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม และตนเป็นรองประธาน จะมีการประชุม ในวันที่ 9 ต.ค.นี้ เพื่อกำหนดกรอบและติดตามความก้าวหน้าโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งมีประเด็นหารือความพร้อมในการส่งพื้นที่ รถไฟเชื่อม 3 สนามบินด้วย โดยจะดูรายละเอียด การส่งมอบ 72% หลังลงนามสัญญา และจุดที่ยังเหลืออยู่เป็นอย่างไร ติดขัดหรือต้องประสานงานกับหน่วยงานใด มีงบประมาณจัดสรรหรือไม่ เป็นต้น