นายภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางได้ดำเนินโครงการบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม ตามโครงการ e-Payment ภาครัฐ ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ฯ National e-Payment Master Plan โดยทำหน้าที่จ่ายเงินตรงเข้าบัญชีผู้มีสิทธิรับเงินสวัสดิการสังคม และเงินอื่นแทนส่วนราชการ หรือหน่วยงานที่กำกับดูแลสวัสดิการสังคมแต่ละประเภท
ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางได้ออกหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเงินเบี้ยความพิการ ตามโครงการบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายเงินอุดหนุนแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยกรมบัญชีกลางได้ร่วมมือกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ดำเนินการจัดทำฐานข้อมูลร่วมกัน และได้รับการสนับสนุนจากกรมการปกครองในการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลบุคคล โดยนำร่องจ่ายเงินให้กับผู้มีสิทธิโดยตรงใน จ.สิงห์บุรี เมื่อเดือน ส.ค.และ ก.ย.62
"ขณะนี้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) กำลังดำเนินการพัฒนาระบบสารสนเทศการจัดการฐานข้อมูล เบี้ยยังชีพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและตรวจสอบความถูกต้องของฐานข้อมูลบุคคลของ อปท. จำนวน 7,774 แห่ง ทั่วประเทศ เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม (e-Social Welfare) ของกรมบัญชีกลาง ให้สามารถจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเงินเบี้ยความพิการได้อย่างมีประสิทธิภาพ" อธิบดีกรมบัญชีกลางระบุ
โดยกรมบัญชีกลาง ได้เตรียมความพร้อมของระบบไว้รองรับการจ่ายเงินดังกล่าวแล้ว ซึ่งจะสามารถจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการของ อปท. ครบทั้ง 76 จังหวัด จำนวน 7,774 แห่ง ในเดือนม.ค.63 โดยโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของผู้มีสิทธิโดยตรง ซึ่งการจ่ายเงินดังกล่าวจะมีรอบการจ่ายทุกวันที่ 10 ของเดือน หากเดือนใดวันที่ 10 ตรงกับวันหยุดราชการ จะจ่ายในวันทำการก่อนวันหยุดนั้น ๆ
ทั้งนี้ การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเงินเบี้ยความพิการเข้าบัญชีของผู้มีสิทธิโดยตรง จะช่วยลดขั้นตอนการทำงานและแบ่งเบาภาระงานให้กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และผู้มีสิทธิจะได้รับเงินรวดเร็วและสะดวกมากขึ้น