น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้รับทราบผลการประชุมของคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) หรือ บอร์ด EEC ซึ่งได้มีการประชุมไปเมื่อวันที่ 30 ก.ย.62 ซึ่งเน้นในเรื่องการส่งมอบพื้นที่โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ให้เร็วที่สุด
พร้อมกับให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จัดทำร่างแผนปฏิบัติการรื้อย้ายสาธารณูปโภค พร้อมค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งหมด และจัดทำเป็นแผนสรุปออกมา รวมทั้งในส่วนของมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเหมาะสมและเป็นธรรมด้วย ซึ่งจะต้องนำกลับมาเสนอต่อที่ประชุมบอร์ด EEC อีกครั้ง
สำหรับการส่งมอบพื้นที่นั้น หากมีการส่งมอบพื้นที่ล่าช้าภาครัฐจะชดเชยให้แก่เอกชนที่เป็นคู่สัญญา ด้วยการขยายเวลาการก่อสร้างออกไปให้ แต่จะไม่มีการชดเชยในรูปของตัวเงินหรือการจ่ายค่าเสียหายแต่อย่างไร
"เรื่องการส่งมอบพื้นที่ ให้กระทรวงมหาดไทย และกรมการปกครอง เข้าไปเร่งตอบหนังสือยืนยันแนวเวนคืนในโครงการ เพื่อเร่งออก พ.ร.ฎ.การเวนคืนพื้นที่" รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว
พร้อมกันนี้ ที่ประชุม ครม.ยังเห็นชอบบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือสำนักงาน EEC กับรัฐบาลมณฑลกวางตุ้ง ซึ่งเป็นความร่วมมือในด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมาย การวิจัยและพัฒนานวัตกรรม รวมถึงการศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งมณฑลกวางตุ้งนี้จะรวมไปถึงฮ่องกง และมาเก๊าด้วย