นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวในการเปิดสัมมนาแนวทางการดำเนินงานโครงการสำคัญของกรมการข้าว ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ภายใต้ระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับข้าวและชาวนาไทย นโยบายหลักที่รัฐบาลมุ่งหวังคือให้สินค้าเกษตรโดยเฉพาะข้าวเป็นสินค้าที่มีศักยภาพการแข่งขันในตลาดโลก ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่มุ่งให้ "ประเทศไทยเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว เศรษฐกิจเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ และมีขีดความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น" เป็นการกำหนดเป้าหมายระยะยาว ตั้งแต่ ปี 2561 -2580 เพื่อนำพาประเทศสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดคือการวางรากฐานในการรวมกลุ่มเป็นกลุ่มชาวนาแบบแปลงใหญ่ ซึ่งปีนี้ได้ตั้งเป้าการผลิตเมล็ดพันธุ์จากเดิม 85,000 ตัน ต่อปี เพิ่มขึ้นเป็น 200,000 ตันต่อปี
"มั่นใจว่าในปี 2563 กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมการข้าว จะขับเคลื่อนการเพิ่มศักยภาพการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวในประเทศไทยให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ พร้อมนำระบบตลาดออนไลน์เข้ามาเชื่อมโยงการค้าขายกับผู้ซื้อโดยตรง นอกจากนี้ได้มอบแนวทางให้ศูนย์วิจัยพันธุ์ข้าวและศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวทั่วประเทศ เร่งศึกษาวิจัยเพื่อเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน โดยจะมีการประกวดแข่งขัน และมอบรางวัลเพื่อกระตุ้นให้ทุกศูนย์ฯ ได้ร่วมมือกันเป็นแรงจูงใจในการพัฒนาศักยภาพและเพิ่มเมล็ดพันธุ์ในประเทศไทย" นายประภัตร กล่าว
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาเกษตรกรผู้ปลูกข้าวประสบปัญหาจากภัยธรรมชาติ (ฝนแล้ง ฝนทิ้งช่วง และอุทกภัย) โดยพื้นที่ปลูกข้าวที่ได้รับความเสียหายจากภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วง 3.97 ล้านไร่ เกษตรกร 413,965 ครัวเรือน และเสียหายจากการเกิดอุทกภัยจากพายุโซนร้อนส่งผลกระทบต่อพื้นที่เพาะปลูกข้าวในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พื้นที่ 3.10 ล้านไร่ เกษตรกร 544,219 ครัวเรือน ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตจนถึงภาคการส่งออก ดังนั้นภารกิจเร่งด่วนที่สุดคือการสร้างความเชื่อมั่น และดูแลความเสียหาย จนถึงการวางรากฐานที่สำคัญสำหรับอนาคตของประเทศ และพัฒนาระบบการผลิตข้าวเพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ทั้งระบบซึ่งรัฐบาลพร้อมสนับสนุนชาวนาในการดำเนินการผลิตข้าวและถ่ายทอดความรู้ ไปสู่ลูกหลาน เพื่อให้สามารถส่งออกข้าวไปแข่งขันกับนานาประเทศ และดึงดูดลูกค้า ด้วยการผลิตข้าวที่มีคุณภาพ เชื่อมโยงภาคการตลาดอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ประเทศมีศักยภาพในการแข่งขัน ต่อสู้กับภาวะวิกฤตเศรษฐกิจได้ ตลอดจนชาวนามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ล่าสุด ครม.ได้อนุมัติแผนปฏิบัติการฟื้นฟู เยียวยา เกษตรกรผู้ประสบภัยฝนทิ้งช่วงและอุทกภัยปี 2562 จำนวน 5 โครงการ ภายในกรอบวงเงิน 3,120.8618 ล้านบาท โดยมี โครงการรักษาระดับปริมาณและคุณภาพข้าวปี 2563/64 ซึ่งมีเป้าหมาย เกษตรกร 827,000 ครัวเรือน เมล็ดพันธุ์ข้าว 63,200 ตัน พื้นที่ 6.32 ล้านไร่ โดยสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวแก่เกษตรกร ไร่ละ 10 กิโลกรัม ไม่เกินครัวเรือนละ 10 ไร่ จำนวน 1,739.4290 ล้านบาท เพื่อสร้างรายได้และลดรายจ่ายในครัวเรือนให้แก่เกษตรกรผู้ประสบภัยฝนทิ้งช่วงและอุทกภัยปี 2562 ให้สามารถทำการผลิตได้ทันทีหลังน้ำลด
พร้อมกันนี้ ครม.ได้มีมติเห็นชอบให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินโครงการเพิ่มน้ำต้นทุนและระบบกระจายน้ำเพื่อสนับสนุนแผนปฏิบัติการฟื้นฟู เยียวยา เกษตรกรผู้ประสบภัยฝนทิ้งช่วงและอุทกภัย ปี 2562 โดยกรมทรัพยากรน้ำสนับสนุนการพัฒนาแหล่งน้ำพร้อมระบบกระจายน้ำเพื่อสนับสนุนกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ เพื่อพัฒนาระบบส่งน้ำและปรับปรุงแหล่งน้ำให้กับกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่/กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ในพื้นที่นำร่อง 120 แปลงใหญ่ รวมพื้นที่เกษตรแปลงใหญ่ที่ได้รับผลประโยชน์ทั้งสิ้น 80,000 ไร่ ครอบคลุมทั่วประเทศ และกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ดำเนินการเจาะบ่อบาดาลพร้อมระบบกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ให้กับกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่และกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ในพื้นที่นำร่อง 700 แห่ง พื้นที่เป้าหมาย 86,000 ไร่