ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 30.37 แข็งค่าจากวานนี้ตามทิศทางภูมิภาค หลังดอลล์อ่อนจากยอดค้าปลีกสหรัฐฯหดตัว

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday October 17, 2019 09:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 30.37 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากปิด ตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 30.40 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าหลังตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ออกมาแย่กว่าคาด ประกอบกับ ผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลดลง

"บาทแข็งค่าตามภูมิภาคเนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าหลังตัวเลขค้าปลีกฯ ออกมาแย่กว่าคาด และบอนด์ยิลด์ปรับตัวลดลง" นัก
บริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ระหว่าง 30.35-30.45 บาท/ดอลลาร์

"บาทน่าจะแกว่งตัวในกรอบ นักลงทุนคงเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นหลังแบงก์ชาติประกาศจะเข้ามาดูแลหากบาทแข็งค่าเมื่อ สัปดาห์ก่อน" นักบริหารเงิน ระบุ

THAI BAHT FIX 3M (16 ต.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.49941% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.52195%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 108.79 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 108.69 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1077 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1040 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 30.4180 บาท/ดอลลาร์
  • รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงกำลังพิจารณาการออกมาตรการทางการท่องเที่ยวเพิ่มเติมมาช่วยเสริม
มาตรการ "ชิม ช้อป ใช้" ระยะที่ 2 หรือเฟส 2 โดยการออกมาตรการเสริม เช่น มาตรการร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทย คาดว่าจะสร้างเงิน
หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 300-400 ล้านบาท
  • ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังเปิดเผยว่า ที่ประชุม รมว.คลังเอเปก (APEC FMM) ครั้งที่ 26 ที่ประชุมมีความ
เห็นร่วมกันว่าเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเปกมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงตามภาวะเศรษฐกิจโลก แต่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผู้บริโภคที่เข้ม
แข็งยังเป็นปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญต่อการเติบโตของเอเปก และธนาคารพัฒนาเอเชีย คาดว่าเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเปกปีนี้จะขยายตัว
3.2% ชะลอตัวลงจากปีที่ผ่านมาที่ขยายตัว 3.7%
  • ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจไตรมาส 4 ว่ามีแนวโน้มดีขึ้นกว่าไตรมาส 3 เนื่อง
จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่เริ่มส่งผลชัดเจนขึ้น ซึ่งช่วง 2 เดือนกว่าของปีนี้ ยังคงต้องพึ่งพาปัจจัยในประเทศเป็นหลัก โดย
ฝากความหวังว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐจะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นขึ้นมาบ้าง ขณะที่การส่งออกในไตรมาสนี้ ก็ยังคงติดลบ
เพราะเศรษฐกิจโลกยังไม่ดีขึ้น ปัจจัยต่างประเทศยังไม่เปลี่ยนแปลง แม้จะมีข่าวดีว่าจีนและสหรัฐฯจะสามารถเจรจาตกลงกันได้ แต่ยังคง
ต้องจับตากันต่อไป
  • ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรจะเริ่มพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ของไทยเป็นวันแรก แบ่งเวลา
รัฐบาล-ฝ่ายค้าน ฝ่ายละ 18 ชั่วโมง ฝ่ายค้านจัด 106 ส.ส.ลุยถลก
  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขต หรือ "Beige Book" เมื่อวานนี้ โดยระบุ
ว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวเล็กน้อยในเดือนก.ย.จนถึงช่วงต้นเดือนต.ค. ขณะที่บริษัทเอกชนจำนวนมากมีมุมมมองเป็นลบต่อแนวโน้ม
เศรษฐกิจในช่วงหลายเดือนข้างหน้า โดยรายงานดังกล่าวถือเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่า นโยบายการค้าของสหรัฐยังคงส่งผลกระทบต่อแนว
โน้มเศรษฐกิจในประเทศ
  • ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก้ เปิดเผยว่า เฟดอาจจะพิจารณาเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก
เมื่อดูจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆนานาที่มีต่อแนวโน้มของเศรษฐกิจสหรัฐ
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ย.ลดลง 0.3% ซึ่งเป็นการหดตัวลงครั้งแรกในรอบ 7 เดือน และ
สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% ส่งสัญญาณว่าการใช้จ่ายผู้บริโภคที่เคยเป็นปัจจัยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงหลาย
เดือนที่ผ่านมานั้น กำลังชะลอตัวลง
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (16 ต.ค.)
หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.ย.หดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ
สหรัฐ
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวล
เกี่ยวกับความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนในประเด็นฮ่องกง รวมทั้งยอดค้าปลีกของสหรัฐที่หดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 7
เดือน นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเพิ่มความน่าดึงดูดให้กับทองคำ
  • นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขการเริ่ม
สร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ย., ดัชนีการผลิตเดือนต.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, การผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลัง
การผลิตเดือนก.ย. และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนส.ค.จาก Conference Board
  • นักลงทุนวิตกกังวลว่า ความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนในประเด็นฮ่องกงนั้น อาจจะส่งผลกระทบต่อการ
เจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนซึ่งมีความเปราะบางอยู่แล้วในขณะนี้ หลังมีรายงานว่า จีนต้องการเจรจาเพิ่มเติมกับสหรัฐอย่างเร็วที่สุด
ในช่วงปลายเดือนต.ค.นี้ เพื่อสรุปรายละเอียดของข้อตกลงการค้าขั้นแรกก่อนที่ผู้นำทั้งสองจะลงนามร่วมกัน
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ เปิดเผยว่า ข้อตกลงการค้ากับจีนนั้น อาจจะไม่มีการลงนามกันจนกว่าที่ตนเองจะ
ประชุมร่วมกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในการประชุมสุดยอดเอเปค ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศชิลีในเดือนพ.ย.นี้
  • นักลงทุนยังคงติดตามการเจรจาว่าด้วยการที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยคณะผู้เจรจาจาก EU

และอังกฤษได้เริ่มการเจรจาข้อตกลง Brexit รอบใหม่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ท่ามกลางความหวังที่ว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถบรรลุข้อ

ตกลงกันได้เพื่อส่งให้ผู้นำ EU ลงนามรับรองในระหว่างการประชุมสุดยอดวันที่ 17-18 ต.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ