สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย.62 อยู่ที่ระดับ 92.1 ลดลงจากเดือนส.ค.ซึ่งอยู่ที่ระดับ 92.8 โดยดัชนีฯ ปรับลดลงต่ำสุดในรอบ 12 เดือน นับตั้งแต่ ต.ค.62 เนื่องจากผู้ประกอบการยังมีความกังวลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจภายในประเทศที่ยังคงชะลอตัว
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่กว่า 70% ยังกังวลปัญาหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ยังไม่มีท่าจะคลี่คลายลง นอกจากนี้ผู้ประกอบการกว่า 50% กังวลเรื่องเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่อง โดยในเดือนก.ย.62 เงินบาแข็งค่าแตะระดับต่ำสุดที่ 30.76 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่ากว่า 5% เมื่อเทียบกับก.ย.61 ทำให้ผู้ประกอบการส่งออกได้รับผลกระทบ ขณะที่ราคาขายปลีกน้ำมันภายในประเทศที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการดำเนินธุรกิจด้วยเช่นเดียวกัน
ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการคลายความกังวลลงบ้าง แต่ยังมีปัจจัยกดดันภายในประเทศที่ทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นยังไม่ฟื้น ประกอบกับการชะลอการลงทุนภายในประเทศ สะท้อนการนำเข้าเครื่องจักรและวัตถุดิบในการผลิตลดลง รวมทั้งการบริโภคในประเทศที่ยังชะลอตัว นอกจากนี้ อุทกภัยในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้กำลังซื้อในภูมิภาคลดลงด้วย
สำหรับดัชนีคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 103.4 โดยเพิ่มขึ้นจาก 102.9 ในเดือนส.ค. เนื่องจากผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยในช่วง 3 เดือนข้างหน้า จะไดั้บปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ผ่านโครงการชิมช้อปใช้ ทั้งระยะที่ 1 และ 2 ซึ่งจะช่วยให้เกิดการใช้จ่ายภายในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องไปจนถึงช่วงปลายปี 2562
สำหรับข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ ส.อ.ท.เห็นว่ารัฐบาลควรส่งเสริมผู้ประกอบการไทยไปลงทุนในต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นตลาดที่มีศักยภาพ โดยปรับเงื่อนไขการลงทุนและสิทธิประโยชน์ทางภาษี เพื่อจูงใจผู้ลงทุนมากขึ้น พร้อมกันนี้ควรให้การสนับสนุนสินค้า Made in Thailand พร้อมส่งเสริมให้ใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ รวมทั้งรณรงค์ให้ผู้บริโภคใช้สินค้าไทย