รายงานข่าวจากศาลปกครองในวันนี้(18 ต.ค.) ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามมติองคณะกรรมการคัดเลือกของโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกที่ปฏิเสธไม่รับซองข้อเสนอด้านเทคนิคและแผนธุรกิจ (ซอง 2) และซองข้อเสนอด้านราคา (ซอง3) ของกลุ่มกิจการค้าร่วมบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัดและพันธมิตร เป็นการชั่วคราวก่อนการพิพากษา
ทั้งนี้ ศาลปกครองให้คณะกรรมการคัดเลือกฯ รับพิจารณาเอกสารดังกล่าวให้เป็นไปตามขั้นตอนการดำเนินการคัดเลือกต่อไป
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการคัดเลือกของโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก มีมติไม่รับซองข้อเสนอของกลุ่มกิจการค้าร่วมบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด ที่เป็นซองข้อเสนอกล่องที่ 6 ที่เป็นซองข้อเสนอด้านเทคนิคและแผนธุรกิจ และซองที่ 9 ที่เป็นซองข้อเสนอด้ายราคา ไว้พิจารณา เนื่องจากยื่นข้อเสนอเกินเวลาที่กำหนดไว้
ศาลปกครองสูงสุดได้พิจารณาคำขอของกลุ่มกิจการร่วมค้าธนโฮลดิ้งแล้วเห็นว่า เนื่องจากกระบวนการคัดเลือกเพื่อให้ได้มาซึ่งคู่สํญญาในโครงการได้ดำเนินการมาจนถึงขั้นตอนการเปิดข้อเสนอ ซองที่ 3 ซึ่งเป็นข้อเสนอด้านราคาแล้ว และอาจมีการดำเนินการต่อไปจนถึงขั้นลงนามในสัญญาในระยะเวลาอันใกล้ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครองของกลุ่มกิจการค้าร่วมบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด เป็นการเร่งด่วน สมควรที่ศาลจะมีคำสั่งเกี่ยวกับคำขอดังกล่าว โดยไม่ต้องมีคำแถลงการณ์ของตุลาการผู้แถลงคดีตามนัยข้อ 72 วรรคหนึ่ง แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2543
กรณีมีประเด็นที่ศาลปกครองสูงสุดจะต้องวินิจฉัย มีเหตุที่ศาลจะมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามมติของคณะกรรมการคัดเลือกฯ แจ้งตามหนังสือสำนักงานบริหารเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกของกองทัพเรือ ด่วนมาก ที่ลงวันที่ 10 เม.ย.62 ที่ไม่รับข้อเสนอซองที่ 2 ข้อเสนอด้านเทคนิคและแผนธุรกิจ กล่องที่ 6 และซองที่ 3 ข้อเสนอด้านราคา กล่องที่ 9 ของกลุ่มกิจการค้าร่วมบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด หรือไม่
ศาลพิเคราะห์ตามมาตรา 8 พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 และ พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 เห็นสมควรกำหนดมาตรการหรือวิธีการใดๆ เพื่อบรรเทาทุกข์ให้แก่คู่กรณีเกี่ยวข้องเป็นการชั่วคราวก่อนการพิพากษาคดี ศาลจึงมีอำนาจสั่งทุเลาการบังคับตามกฎหมายหรือคำสั่งทางปกครองได้ตามเห็นสมควร
ทั้งนี้ กองทัพเรือจะเปิดให้มีการรับซองข้อเสนอในวันที่ 21 มี.ค.62 เวลา 9.00 น. และปิดการรับซองข้อเสนอในวันเดียวกันเวลา 15.00 น. ได้มีผู้ยื่นข้อเสนอ ณ กองบัญชาการกองทัพเรือ 3 กลุ่ม คือ กลุ่มกิจการร่วมค้าบีบีเอส (BBS Joint Venture) กลุ่ม Grand Consortium และกลุ่มกิจการค้าร่วมบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร โดยคณะกรรมการคัดเลือกฯได้จัดสถานีในการรับซองข้อเสนอแยกแป็น 3 ส่วนได้แก่ ห้องรับรอง กองบัญชาการกองทัพะรือ ซึ่งใช้เป็นห้องยื่นข้อเสนอ ห้องรับรองชาวต่างประทศซึ่งใช้เป็นห้องพักคอย และห้อง Navy Club ซึ่งใช้เป็นห้องเก็บเอกสารข้อเสนอที่ได้ยื่นต่อคณะกรรมการคัดเลือกฯแล้ว
เมื่อพิจารณาบทบัญญัติของกฎหมายและข้อกำหนดในเอกสารคัดเลือกเอกชน (RFP) ประกอบกับข้อเท็จจขริงที่รับฟังได้ในชั้นนี้แล้วเห็นได้ว่า หลักการสำคัญของการดำเนินการเพื่อคัดเลือกหรือให้ได้มาซึ่งคู่สัญญาของรัฐนั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประโยชน์สาธารณะหรือประโยชน์ของรัฐ และในส่วนที่เกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิของผู้เข้าร่วมกระบวนการคัดเลือกคู่สัญญานั้น หลักกฎหมายดังช่นที่บัญญัติไว้ในมาตรา 8 ของพ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ ได้กำหนดหลักการให้มีการดำเนินการโดยเปิดเผย โปร่งใส และเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม การพิจารณาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินการในกรณีนี้ และการปรับใช้ข้อกำหนดใดๆในเอกสารคัดเลือกเอกชน (RFP) จึงต้องยึดถือและให้สอดคล้องกับหลักการและหลักกฎหมายดังกล่าวเป็นสำคัญ
ในกรณีนี้ ถึงแม้เอกสารคัดเลือกกำหนดให้มีการปิดการรับซองข้อเสนอในวันที่ 21 มี.ค.62 เวลา 15.00 น. และกำหนดว่า คณะกรรมการคัดเลือกฯจะไม่รับซองเอกสารข้อเสนอที่ยื่นภายหลังกำหนดเวลาการยื่นซองเอกสาร
แต่เมื่อพิจารณาข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ของการยื่นข้อเสนอเห็นได้ว่า การดำเนินการต่างๆ เกี่ยวกับการยื่นข้อเสนอในคดีนี้เป็นกระบวนการยื่นข้อเสอนในโครงการขนาดใหญ่ เป็นที่คาดหมายได้ตรงกันว่ามีเอกสารที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก การจะกำหนดให้มีการรับเอกสารเมื่อใด โดยวิธีการใด จึงต้องมีกระบวนการที่ชัดเจน และต้องกำหนดเป็นหลักเกณฑ์เกี่ยวกับกระบวนการตรวจรับเอกสารเช่นว่านั้นให้ผู้ยื่นข้อเสนอได้รับทราบเป็นการล่วงหน้า
แต่จากข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ในเรื่องนี้ ไม่ปรากฎข้อเท็จจริงว่า มีกระบวนการรับและตรวจปริมาณของเอกสารอย่างชัดเจน และกลับปรากฎข้อเท็จจริงว่า มีกระบวนการให้ผู้ยื่นข้อเสนอแสดงตนว่าประสงค์จะเข้าร่วมการยื่นข้อเสนอด้วยการให้ลงทะเบียนก่อน แล้วหลังจากนั้นจึงมีกระบวานการรับและตรวจสอบเอกสารในลำดับถัดไป โดยการเรียกให้ผู้ยื่นข้อเสนอเข้าสู่กระบวนการรับและตรวจสอบเอกสารทีละราย
ข้อเท็จจริงปรากฎว่า ได้เริ่มมีการตรวจเอกสารของกลุ่มกิจการร่วมค้าบีบีเอส เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. เป็นรายแรก จากนั้นดำเนินการรับและตรวจสอบของกลุ่ม Grand Consortium และกลุ่มกิจการค้าร่วมบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด ตามลำดับ เช่นนี้ไม่ได้ความว่าได้มีการขยายระยะเวลาซึ่งต้องกระทำเป็นลายลักษณ์อักษรตามเอกสาร RFP แต่มีความหมายที่แสดงให้เห็นว่า กระบวนการยื่นข้อเสนอในครั้งนี้ไม่ได้ยึดถือการขนหรือลำเลียงเอกสารใดให้ต้องผ่านจุดลงทะเบียนภายในเวลา 15.00 น.เพราะโดยสภาพผู้ยื่นข้อเสนอแต่ละรายจะต้องลำเลียงเอกสารมาเป็นระยะๆ ในระหว่างนั้น
อีกทั้งการที่ปรากฎข้อเท็จจริงในชั้นนี้ว่า การเข้ายื่นเอกสารรายของกลุ่มกิจการค้าร่วมบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด เจ้าหน้าที่ของคณะกรรมการคัดเลือกฯได้ทำการตรวจสอบและรับเอกสารจนครบถ้วนเรียบร้อยในวันนั้นแล้ว โดยมีการออกเอกสารแบบฟอร์มตรวจสอบการจัดเก็บข้อเสนอโครงการให้แก่กลุ่มกิจการค้าร่วมบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด ว่าได้ลงทะเบียนก่อนเวลา 15.00 น.และไม่ปรากฎว่าได้มีการทักท้วงหรือท้วงติงเกี่ยวกับเอกสารของกลุ่มกิจการค้าร่วมบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด ในวันนั้นแต่อย่างใด
ส่วนการอ้างถึงรายงานของคณะทำงานรับและจัดเก็บเอกสารข้อเสนอก็ไม่ได้ปรากฎว่าเป็ฯการทำรายงานขึ้นในขณะนั้น กรณีเป็นเพียงการอ้างถึงรายงานดังกล่าวที่ปรากฎขึ้นในภายหลัง เช่นเดียวกับการอ้างถึงภาพถ่ายนิ่งที่ใช้อ้างว่ามีการลำเลียงเอกสารกล่องที่ 6 และเอกสารกล่องที่ 9 ผ่านจุดลงทะเบียนหน้าห้องรับรอง กองบัญชาการทหารเรือในเวลา 15.09 น.นั้น ก็เป็นการอ้างถึงข้อเท็จจริงที่ได้รับมาในภายหลังวันที่มีการปิดรับซองเอกสารแล้ว
ประกอบกับเอกสารกล่องที่ 6 และกล่องที่ 9 ไม่ใช่เอกสารที่กำหนดให้จะต้องมีการเปิดซองเอกสาร ณ ขณะนั้นด้วย หลังการตรวจรับเอกสารแล้วจะนำไปเก็บรักษาไว้ในความครอบครองของคณะกรรมการคัดเลือกฯ ซึ่งผู้ยื่นข้อเสนอไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงใดๆ หรือล่วงรู้ถึงรายละเอียดข้อมูลของเอกสารข้อเสนอซองที่ 2 และข้อเสนอซองที่ 3 ของผู้ยื่นข้อเสนอรายอื่นได้ จึงไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่คณะกรรมการคัดเลือกฯจะนำมาใช้พิจารณาว่ามีข้อบกพร่องในการยื่นข้อเสนอที่เป็นสาระสำคัญ
ดังนั้น การที่คณะกรรมการคัดเลือกฯพิจารณาใช้ดุลพินิจปฏิเสธไม่รับซองที่ 2 ในกล่องที่ 6 และซองที่ 3 กล่องที่ 9 ศาลปกครองสูงสุดเห็นว่าน่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งการปฏิเสธไม่รับเอกสารในส่วนดั้งกล่าวอันเป็นผลให้กลุ่มกิจการค้าร่วม บริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด ไม่อาจเข้าร่วมกระบวนการคัดเลือกนั้น หาใช่เป็นเพียงการที่กลุ่มกิจการค้าร่วมบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด เสียโอกาส หากแต่เป็นเรื่องของการคุ้มครองสิทธิของบุคคลซึ่งเป็นเรื่องสำคัญของการบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตามหลักนิติธรรม โดยหากกระบวนการคัดเลือกในครั้งนี้ได้ดำเนินการต่อไปในขั้นตอนต่างๆ โดยศาลไม่ได้พิจารณาถึงการให้ความคุ้มครองสิทธิของกลุ่มกิจการค้าร่วมบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัดแล้วย่อมจะทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงที่ยากแก่การแก้ไขเยียวยาในภายหลัง
จึงมีเหตุอันสมควรที่ศาลปกครองสูงสุดจะให้มีการทุเลาการบังคับตามมติของกลุ่มกิจการค้าร่วมบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด ที่ไม่รับข้อเสนอซองที่ 2 ข้อเสนอด้านเทคนิคและแผนธุรกิจ กล่องที่ 6 กับฉบับสำเนา และซองที่ 3 ข้อเสนอด้านราคา กล่องที่ 9 กับฉบับสำเนา ของกลุ่มกิจการค้าร่วมบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัดเป็นการชั่วคราวก่อนการพิพากษาโดยให้คณะกรรมการคัดเลือกฯรับพิจารณาเอกสารดังกล่าวของกลุ่มกิจการค้าร่วมบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด ให้เป็นไปตามขั้นตอนการดำเนินการคัดเลือกต่อไป
อนึ่ง คำฟ้องของกลุ่มกิจการค้าร่วมบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร ได้แก่ บริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด (บริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี)) บริษัท บี.กริม.จอยน์ เว็นเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด บมจ.อิตาเลียนไทย (ITD) บมจ.ช.การช่าง (CK) และ บริษัท โอเรียนท์ ซัคเซส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด