ยูโรอ่อนเทียบดอลล์ที่โตเกียวเช้านี้ หลังแข็งค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์

          เงินสกุลยูโรอ่อนค่าลงที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวเช้าวันนี้(27 ก.พ.) หลังจากที่แข็งค่าขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ระดับใหม่เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐจากกระแสคาดการณ์ว่าธนาคากลางสหรัฐ(เฟด)จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกเพื่อช่วยพยุงมิให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังจากที่รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐร่วงหนักกว่าคาด และจากการส่งสัญญาณที่ชัดเจนของรองประธานเฟด 
          นอกจากนี้ เงินยูโรยังได้รับปัจจัยหนุนจากผลการสำรวจความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ Ifo ของเยอรมันซึ่งพุ่งขึ้นแตะที่ 104.1 ในเดือนก.พ.จากระดับ 103.4 ในเดือนก่อนหน้านี้ สวนทางกับที่นักวิเคราะห์จากโพลล์ของธอมสัน ไฟแนนเชียลคาดว่าจะร่วงลงไปอยู่ที่ระดับ 102.7
          โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา เงินยูโรพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.5046 ดอลลาร์ต่อยูโร ซึ่งพุ่งขึ้นเหนือระดับสูงสุดที่ทำไว้เมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ 1.4967 ดอลลาร์ต่อยูโร ก่อนที่จะถูกแรงเทขายทำกำไรกดให้เงินยูโรอ่อนค่าลงมาในเช้านี้
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 07.10 น. ตามเวลาในประเทศไทย ค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 1.4990 ดอลลาร์ต่อยูโร หลังจากที่เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1.4969-1.4979 ดอลลาร์ต่อยูโรที่ตลาดนิวยอร์กคืนวานนี้ ขณะที่เงินดอลลาร์เทรดกันที่ 107.32 เยนต่อดอลลาร์จากระดับ 107.22-107.32 เยนต่อดอลลาร์ที่ตลาดนิวยอร์ก
          คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคร่วงลงแตะที่ 75.0 ในเดือนนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่ปี 2546 ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 81.3 
           นายโดนัลด์ คอนห์ รองประธานเฟดกล่าวว่า ตลาดเงินยังได้รับผลกระทบจากการภาวะซบเซาในตลาดที่อยู่อาศัยที่ลุกลามไปยังภาคธุรกิจอื่นๆของสหรัฐ ขณะที่ต้นทุนพลังงาน อาหาร และสินค้านำเข้าที่เพิ่มสูงขึ้นได้ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นตามมา
          โอซามู ทากาชิมะ นักวิเคราะห์จากแบงค์ ออฟ โตเกียว มิซูบิชิ ยูเอฟเจกล่าวว่า "ปัจจัยเหล่านี้ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเฟดอาจต้องเดินหน้าปรับลดดอกเบี้ยลงอีก"   
           นอกจากนี้ นักลงทุนกำลังจับตาการเปิดเผยรายงานเศรษฐกิจของนายเบน เบอร์นันเก้ประธานเฟดที่จะแถลงต่อสภาคองเกรสในคืนนี้