จีนชี้การขึ้นราคาสินแร่เหล็กอาจช่วยให้อุตฯเหล็กในปท.มีประสิทธิภาพขึ้น

          จีนกำลังประสบปัญหาจากการเป็นผู้ตามราคาแทนที่จะเป็นผู้กำหนดราคาสินแร่เหล็ก ทั้งที่จีนเป็นประเทศที่นำเข้าสินแร่เหล็กสูงถึงเกือบครึ่งหนึ่งของปริมาณสินแร่แหล็กทั่วโลก และส่งผลให้จีนเป็นผู้บริโภคสินแร่เหล็กรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยสาเหตุหนึ่งอาจจะมาจากการที่จีนไม่รีบเจรจาต่อรองเรื่องราคากับประเทศซัพพลายเออร์รายหลักๆ ตั้งแต่แรก ทั้งที่สถานการณ์ดังกล่าวสามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้า เนื่องจากสินแร่เหล็กเป็นวัตถุดิบที่เป็นที่ต้องการทั่วโลก 
          อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์กล่าวว่า ต้นทุนที่สูงขึ้นอาจช่วยให้อุตสาหกรรมเหล็กของจีนมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากการกำหนดราคาอาจเป็นการบีบให้บริษัทเหล็กที่มีขนาดเล็กกว่าและมีเทคโนโลยีที่ล้าสมัยต้องปิดกิจการไปในที่สุด
          ทั้งนี้ หลังจากที่บริษัทเหมืองยักษ์ใหญ่อย่างซีวีอาร์ดีของบราซิลได้ตกลงกับบริษัทผู้ผลิตเหล็กของเกาหลีใต้และญี่ปุ่นเรื่องการขึ้นราคาสินแร่เหล็กเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป๋าสตีล กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทเหล็กยักษ์ใหญ่ของจีนก็ตกลงเรื่องราคาได้ในปีงบการเงิน 2551 โดยยอมรับการขึ้นราคาสินแร่เหล็กถึง 65-71% ของซีวีอาร์ดี ซึ่งนี่เป็นกลไกการตั้งราคาอ้างอิงในตลาดสินแร่เหล็กสากล กล่าวคือเมื่อกลุ่มผู้ซื้อยอมรับราคาที่กำหนดขึ้นมาใหม่แล้ว ตัวเลขราคาดังกล่าวก็จะกลายเป็นราคามาตรฐานในอุตสาหกรรมเหล็กทั่วโลก
          สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อปีที่แล้ว เป๋าสตีลเป็นผู้กำหนดราคาสินแร่เหล็กกับซีวีอาร์ดี แต่ปีนี้ กลุ่มผู้ผลิตเหล็กจากประเทศอื่นๆในภูมิภาคเอเชียตะวันออกต้องการเป็นฝ่ายทำข้อตกลงในเรื่องนี้โดยเร็ว เนื่องจากกลุ่มผู้ขายสินแร่เหล็กบางรายได้เริ่มเจรจาเรื่องเงื่อนไขที่มีลักษณะผ่อนปรนมากขึ้นแล้ว ซึ่งหมายความว่าจะมีการกำหนดราคาใหม่เป็นรายไตรมาสหรือรายเดือน
          สมาคมสินแร่เหล็กและเหล็กของจีน เปิดเผยว่า ความต้องการเหล็กของจีนทะยานขึ้นมาก เนื่องจากมีการขยายตัวในเขตเมืองอย่างรวดเร็ว รวมทั้งมีโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานต่างๆจำนวนมาก โดยจีนได้นำเข้าสินแร่เหล็กเกือบครึ่งหนึ่งของสินแร่เหล็กของโลก ส่งผลให้จีนเป็นประเทศที่ใช้สินแร่เหล็กรายใหญ่ที่สุดของโลก สำหรับการซื้อขายสินแร่เหล็กในปี 2550 นั้น มีจำนวนทั้งสิ้น 805 ล้านตัน โดยมีการจัดส่งสินแร่เหล็กมายังจีนจำนวน 383 ล้านตัน นับเป็นสถิติที่สูงขึ้น 17.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี