บอร์ด กคช.วาง 10 มาตรการเร่งด่วนภายใต้ NHA BIG BANG, เล็งส่ง"บริษัทจัดการทรัพย์สินและชุมชน"เข้าตลาดหุ้นใน 3 ปี

ข่าวเศรษฐกิจ Monday October 28, 2019 15:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายณัฐพงศ์ พันธเกียรติไพศาล ประธานคณะกรรมการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) กล่าวว่า คณะกรรมการชุดใหม่ได้มีการวางทิศทางการดำเนินงานของ กคช.ภายใต้แนวคิด NHA BIG BANG 10 มาตรการเร่งด่วน ใน 3 หมวดใหญ่ ได้แก่ ลงทุนเพื่อประชาชน, เข้าชนปัญหาสะสม และระดมพลมาตรฐานใหม่เคหะ เป็นต้น

ทั้งนี้ หมวด "ลงทุนเพื่อประชาชน" แบ่งออกเป็น 3 มาตรการ ได้แก่ มาตรการโครงการบ้านราคา 3-5 แสนบาท จะทำการเปิดต้นแบบได้ภายในปี 62 โดยที่ตั้งโครงการจะอยู่ที่จ.อุดรธานี ,เพชรบุรี, สุโขทัย และระยอง จับกลุ่มเป้าหมายผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง เป็นบ้านที่มีความทันสมัย สวยงาม จะมีการสร้างด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ช่วยลดต้นทุนในการสร้างบ้าน ทำให้ได้มาตรฐานกว่าการก่อสร้างรูปแบบเดิม โดยวางกรอบการดำเนินงานภายในระยะเวลา 30 วัน จัดทำแบบเพื่อเสนอโครงการ ภายใน 60 วัน ประชาสัมพันธ์รูปแบบโครงการ และภายใน 90 วัน เสนอคณะกรรมการพิจารณาโครงการ ซึ่งสิ้นปี 63 คาดหวังจะสามารถเริ่มก่อสร้างโครงการได้

มาตรการเร่งรัดโครงการร่วมทุนรัฐและเอกชน(PPP) จำนวน 13 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 50,000 ล้านบาท ซึ่งจะต้องเข้าพิจารณาในคณะกรรมการระดับชาติบางส่วน และบางส่วนเป็นหน้าที่ของกรรมการการเคหะแห่งชาติชุดใหม่ที่ต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ ซึ่งโครงการมีทั้งรูปแบบที่อยู่อาศัยปกติ บ้านพักสำหรับผู้เกษียณอายุ และโครงการผสมผสานในรูปแบบต่างๆ, มาตรการการจัดทำฐานข้อมูลที่อยู่อาศัยแห่งชาติ ซึ่งจะเป็นฐานข้อมูลที่อยู่อาศัยทั้งประเทศ โดยเชื่อมโยงกับหน่วยงานอื่นอย่างกระทรวงการคลัง กรมธนารักษ์ และกรมที่ดิน เพราะฐานข้อมูลจะช่วยให้นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์จะสามารถเห็นข้อมูลทั้งทั่วประเทศ เพื่อเป็นฐานข้อมูลหลักแก่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของประเทศให้เอกชนได้นำไปต่อยอดสร้างธุรกิจเชื่อมโยงในระบบโลกต่อไป

นอกจากนี้หมวด "เข้าชนปัญหาสะสม" แบ่งเป็น 4 มาตรการ ได้แก่ มาตรการจัดการสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้และเสื่อมโทรม (Sunk Cost) เกี่ยวกับโครงการเอื้ออาทรทั้งหมด ที่มีการทุจริตอยู่ในขั้นตอนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังพิจารณา และโครงการที่มีปัญหาอื่นๆ โดยโครงการทั้งหมดมีเนื้อที่ประมาณ 4,442 ไร่ มูลค่ากว่า 7,700 ล้านบาท ซึ่งได้วางมาตการแก้ปัญหา 3 ระดับไว้เรียบร้อย รวมไปถึงมาตการทางกฎหมายเพื่อดำเนินคดีต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง

มาตรการเร่งจำหน่ายหน่วยที่อยู่อาศัยคงเหลือประมาณ 21,000 หน่วย มูลค่ารวมประมาณ 14,000 ล้านบาท ผ่านมาตรการที่หลากหลาย รวมไปถึงนำเสนอต่อหน่วยราชการอื่นที่ต้องการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้เกษียณอายุราชการ และผ่านระบบนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ของเอกชนซึ่งมีความเชี่ยวชาญ

มาตรการเพิ่มมูลค่าพื้นที่จัดสรรประโยชน์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ เช่น ที่ดินว่างเปล่าจะมีมาตรการจัดประโยชน์ให้เอกชนได้เช่าใช้ทำธุรกิจ เช่น ตลาดการเคหะและพื้นที่เชิงพาณิชย์ รวมไปถึงการเร่งปราบปรามการบุกรุกพื้นที่อย่างผิดกฎหมายทั่วประเทศ และมาตรการเพิ่มศักยภาพบริษัท จัดการทรัพย์สินและชุมชน จำกัด (CEMCO) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเพียงแห่งเดียวของ กคช. โดยทำแผนเร่งด่วนแก้ปัญหาขาดทุนสะสม และหามาตรการขยายธุรกิจโดยใช้ความได้เปรียบของการเคหะที่มีหน่วยที่อยู่อาศัยจำนวนมาก ซึ่งได้เริ่มดำเนินการจัดทำแผนงานปรับโครงสร้างองค์กรและแผนธุรกิจพร้อมดำเนินการทันทีในปี 63 อีกทั้งวางแนวทางนำ CEMCO เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ใน 3 ปี

หมวด "ระดมพลยกมาตรฐานเคหะ" แบ่งเป็น 3 มาตรการ ได้แก่ มาตรการจัดทำชุมชนตัวอย่างมาตรฐานความเป็นอยู่สูง อย่างน้อย 3 แห่ง ในปี 62 ได้แก่ชุมชนแนวราบ ชุมชนแนวตั้ง และตลาดการเคหะ โดยความร่วมมือจากภาคเอกชนที่มีงบประมาณด้าน CSR พัฒนาชุมชนให้มีมาตรฐานความเป็นอยู่สูงแบบครบวงจร เพื่อเป็นต้นแบบของชุมชนการเคหะรุ่นใหม่ๆ ในอนาคต ปัจจุบันมีกิจการขนาดใหญ่สนใจเข้ามาร่วมมือพัฒนาจำนวนมาก

มาตรการจัดระบบภายในแก้ปัญหาคุณภาพด้านการก่อสร้างและการบริหารนิติบุคคลของ กคช. ซึ่งต้องยอมรับว่าปัญหาคุณภาพการก่อสร้างและการบริหารโครงการบางส่วนเกิดขึ้นจากผู้รับเหมาโครงการและผู้ให้บริการที่มีศักยภาพต่ำ รวมไปถึงปัญหาการควบคุมงานภายในองค์กรเอง จึงได้จัดทำมาตรการพิเศษแก้ปัญหาทั้งระบบ โดยอาศัยความร่วมมือของพนักงานการเคหะและตัวแทนจากชุมชนจัดตั้ง Task Force ร่วมกันแจ้งปัญหาและมีมาตรการณ์ขั้นเด็ดขาดต่อผู้สร้างความเสียหายในทุกระดับ

มาตรการ NHA Beyond มาตรการที่ยกระดับ กคช.จากภาระหน้าที่หลักในการสร้างที่อยู่อาศัยเพื่อประชาชน เป็น กคช.ที่มีภาระหน้าที่ในการสร้างชุมชนและสังคมที่มีคุณภาพ มีความเป็นอยู่ที่ได้รับการดูแลที่ดี ประกอบด้วย 3 มาตรการย่อย ได้แก่ Care Beyond ดูแลชุมชนแม้ว่าจะมีการปิดการขายโครงการและส่งมอบต่อไปยังนิติบุคคลเอกชนแล้วก็ตาม, Service Beyond คือการนำ CEMCO มาใช้ประโยชน์เพื่อให้ชุมชมได้รับบริการทั่วไปเพิ่มเติมไม่ว่าด้านการซ่อมแซม ประปา ไฟฟ้า การดูแลรักษาความปลอดภัย และ Reponsibility Beyond คือ ภาระที่ต้องสร้างชีวิตให้ชุมชน ด้วยการพัฒนาสันทนาการ เช่น กิจกรรมดนตรี กีฬา อาชีพผู้สูงอายุ ศูนย์รับเลี้ยงเด็กสำหรับคนในชุมชน ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ การส่งเสริมการออมร่วมกับหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง เช่น กองทุนการออมแห่งชาติ เพื่อเตรียมการให้ประชาชนเข้าสู่สังคมสูงอายุอย่างมีคุณภาพ

นายณัฐพงศ์ กล่าวว่า 10 มาตการดังกล่าวจะทำให้ กคช.สามารถก้าวไปข้างหน้าด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานสูงขึ้นอย่างชัดเจน รวมไปถึงสะสางปัญหาค้างเก่า ซึ่งทำให้ กคช.เสียภาพลักษณ์ และมีผลกระทบต่อประชาชนไปในเวลาเดียวกัน โดยมีการกำหนดกรอบเวลาติดตามผลอย่างชัดเจน ตามมาตรการณ์ตามกรอบระยะเวลา 30,60 และ 90 วัน ต่อคณะกรรมการ กคช.

สำหรับผลการดำเนินงานของ กคช.ปัจจุบันยังมีผลขาดทุนสะสมอยู่กว่า 2 หมื่นล้านบาท แต่เป็นการขาดทุนสะสมที่ลดลงต่อเนื่องจากปี 60 ที่อยู่ที่ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งในปี 60 กคช.มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,200 ล้านบาท, ปี 61 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,800 ล้านบาท และในปี 62 (สิ้นสุดเดือน ก.ย.) คาดจะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,000 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ