นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวในฐานะประธานการประชุมคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC Council) ครั้งที่ 18 โดยมีรัฐมนตรีคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เลขาธิการอาเซียนว่า การประชุม AEC Council ครั้งนี้จะมีการหารือวาระที่สำคัญๆ ได้แก่ รับทราบความสำเร็จ ความคืบหน้า รวมถึงให้ความเห็นชอบเอกสารผลลัพธ์ประเด็นด้านเศรษฐกิจที่ไทยผลักดันในฐานะประธานอาเซียน รับทราบความคืบหน้ามาตรการสำคัญที่อาเซียนจะต้องดำเนินการในปีนี้ และให้ความเห็นชอบเอกสารแนวคิดในการทบทวนแผนงานประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 2568 ในระยะกลาง ให้แนวทางในการปรับปรุง กระบวนการทำงานภายใต้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ตลอดจนรับทราบการดำเนินการของอาเซียนเพื่อรับมือกับการปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 4 เป็นต้น
นอกจากนี้ ที่ประชุมจะหารือการเตรียมการสำหรับการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 ที่จะเกิดขึ้นในอีก 2 วันข้างหน้า โดยจะต้องให้ความเห็นชอบข้อมูลสรุปความคืบหน้าการดำเนินการภายใต้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่จะรายงานต่อผู้นำ และรับทราบประเด็นด้านเศรษฐกิจที่จะปรากฏอยู่ในร่างแถลงการณ์ของประธานการประชุมสุดยอดอาเซียน รวมทั้งรายชื่อเอกสารผลลัพธ์ด้านเศรษฐกิจที่จะเสนอต่อที่ประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งนี้ จากนั้นนายจุรินทร์ในฐานะประธานจึงเริ่มการประชุม AEC Council
นายจุรินทร์ กล่าวว่า การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของอาเซียนในทุกวันนี้มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง มีความแข็งแกร่งและยังคงรักษาบทบาทในการเป็นภูมิภาคที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของโลก ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างประเทศมหาอำนาจและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก เห็นได้จากขนาดเศรษฐกิจของอาเซียนที่เติบโตขึ้นกว่าเท่าตัวในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องกว่า 4% ขณะที่เศรษฐกิจโลกเติบโตอยู่ที่ประมาณ 3% รวมทั้งยังคงเป็นภูมิภาคที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจ โดยในปี 2561 ตัวเลขการลงทุนจากต่างประเทศในภูมิภาคอาเซียนขยายตัวถึง 5.3%
"สิ่งเหล่านี้ถือเป็นผลสำเร็จจากความมุ่งมั่นของทุกประเทศสมาชิกที่ร่วมกันดำเนินการ ตั้งแต่แผนงานการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จนถึงแผนงานประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 2568 ในปัจจุบันที่ได้ดำเนินมาจนเกือบครึ่งทางแล้ว รวมทั้งในปีนี้ที่ไทยรับหน้าที่ประธานอาเซียน ก็ได้ร่วมกันขับเคลื่อนประเด็นสำคัญต่างๆ ภายใต้แนวคิด "Advancing Partnership for Sustainability" ซึ่งจะช่วยสนับสนุนประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนของเราทุกคนให้มีความสามารถในการแข่งขัน พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในอนาคต และเติบโตได้อย่างยั่งยืน"