น.ส.ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เผยภาวะการส่งเสริมการลงทุนช่วง 9 เดือนของปี 2562 (ม.ค.-ก.ย.62) มียอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนรวมทั้งสิ้น 1,165 โครงการ เพิ่มขึ้น 11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 1,048 โครงการ ขณะที่มีมูลค่าการลงทุนรวม 314,130 ล้านบาท ลดลง 11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในปี 2561 มีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ในกิจการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำเร็จรูป
ส่วนทั้งปีจะเป็นไปตามเป้าหรือไม่นั้น น.ส.ดวงใจ กล่าวว่า ต้องรอดูในช่วงไตรมาสสุดท้ายว่ามีคำขอเข้ามามากน้อยเพียงใด แต่ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการใหญ่ๆจะเป็นด้าน Infrastructure ทั้งนี้ช่วงไตรมาสสุดท้ายคาดว่าบีโอไอจะสามารถอนุมัติให้การส่งเริมการลงทุนได้มากกว่าช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากคณะอนุกรรมการพิจารณาโครงการได้เร่งพิจารณาโครงการในทุกสัปดาห์
สำหรับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้มีจำนวน 689 โครงการ เงินลงทุน 203,366 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69% จากช่วงเดียวกันของปี 2561 โดยญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีจำนวนโครงการและมูลค่าเงินลงทุนมากที่สุดเป็นอันดับ 1 โดยมีคำขอรับการส่งเสริมจำนวน 167 โครงการ เงินลงทุน 59,187 ล้านบาท ตามมาด้วยจีนมีคำขอรับการส่งเสริมจำนวน 139 โครงการ เงินลงทุน 45,439 ล้านบาท และอันดับ 3 สวิตเชอร์แลนด์ มีคำขอรับการส่งเสริมจำนวน 15 โครงการ เงินลงทุน 11,710 ล้านบาท
โดยโครงการลงทุนที่ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนในช่วง 9 เตือนของปีนี้ส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมเป้าหมายจำนวน 585 โครงการ คิดเป็น 50% ของจำนวนโครงการที่ยื่นขอรับการส่งเสริมทั้งหมด มีมูลค่ารวม 185,710ล้านบาท คิดเป็น 59% ของมูลค่การขอรับการส่งเสริมทั้งหมด ซึ่งหากพิจารณาในด้านจำนวนโครงการที่ยื่นขอรับการส่งเสริมมากที่สุดจะอยู่ในอุตสาหกรรมดิจิทัล ขณะที่ในด้านมูลค่าเงินลงทุนส่วนใหญ่จะอยู่ในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ โครงการที่ยื่นคำขอรับส่งเสริมเป็น โครงการต่างชาติถือหุ้นทั้งสิ้น 38% คนไทยถือหุ้นทั้งสิ้น 36% และโครงการร่วมทุนไทยและต่างชาติ 26%
สำหรับการขอรับการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่โครงการเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ช่วง 9 เดือนมีจำนวน 360 โครงการ เพิ่มขึ้น 37% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 262 โครการ โดยมีเงินลงทุนรวม 167,930 ล้านบาท ลดลง 23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในปี 2561 มีโครงการขนาดใหญ่ในกิจการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำเร็จรูปซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่อีอีซี ขณะที่การขอรับการส่งเสริมตามมาตรการส่งเสริม SMSs มีคำขอรับการส่งเสริมจำนวน 43 โครงการ เพิ่มขึ้น 87% จากเดิมอยู่ที่ 23 โครงการ โดยมีเงินลงทุนรวม 2,350 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 167% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากเดิมอยู่ที่ 880 ล้านบาท
เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บีโอไอได้อนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนแล้วรวม 1,074 โครงการ มูลค่ารวม 274,340 ล้านบาท ซึ่งช่วยสร้างงานให้คนไทย 59,052 ตำแหน่ง ส่งเสริมให้เกิดการใช้วัตถุดิบในประเทศมูลค่า 454,322 ล้านบาทต่อปี และคิดเป็นมูลค่าการส่งออกที่สร้างรายได้เข้าประเทศ 507,368 ล้านบาทต่อปี