นายอรินทร์ จิรา ประธานสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน เปิดเผยว่า ในระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำธรุกิจอาเซียน นายมหาเธร์ บิน โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีของประเทศมาเลเซีย แสดงความเห็นถึงปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในปัจจุบันว่า การทำสงครามการค้า และการใช้อัตราภาษีสูงจะคงอยู่ได้อีกไม่นานในระบบการค้าระหว่างประเทศ เนื่องจากประเทศต่างๆ ต่างตระหนักดีว่าการทำสงครามการค้าไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์แต่อย่างใด ซึ่งมาเลเซีย ได้เรียกร้องให้ประเทศอาเซียนแสดงจุดยืนในการร่วมกันทุกเวที เพื่อให้มีพลังที่แข็งแกร่งเพียงพอในเวทีประชาคมโลก
"ผมดีใจมากที่ท่านพูดเรื่องนี้ เพราะเรา (สภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน) ต้องการให้ผู้นำอาเซียนมีความเข้มแข็ง อยู่ด้วยกัน stay strong และเป็น united แล้วบอกให้ชาวโลกรู้ว่าเราเป็นห่วงแค่ไหนกับสงครามการค้าที่เกิดขึ้นเวลานี้ เราไม่มีอำนาจบังคับมหาอำนาจทั้ง 2 ประเทศ (สหรัฐฯและจีน) แต่อย่างน้อย เราอยากให้ผู้นำบอกให้ชาวโลกรู้ว่า เราคิดอย่างไร" ประธานสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียนกล่าว
นายอรินทร์ กล่าวว่า ในประเด็นความกังวลเรื่องสงครามการค้านี้ สภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียนได้มีความพยายามที่จะผลักดันให้ผู้นำของแต่ละประเทศในอาเซียนมีบทบาทร่วมกัน เพื่อสื่อไปถึงประเทศมหาอำนาจ ถึงผลกระทบต่อประเทศต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการทำสงครามการค้า
"สภาที่ปรึกษาอาเซียนของทุกประเทศรู้เรื่องนี้ดี และได้มีโอกาสคุยกับผู้นำของประเทศตัวเองเป็นส่วนตัว และตอนนี้เรากำลังพยายามขอให้ท่านมหาเธร์ ช่วยเราคุยกับผู้นำประเทศอื่นๆ ด้วย ผมไม่ว่า ถ้าภาคเอกชนจะคุยกับผู้นำ แล้วผู้นำอาจจะไม่ทำอะไรเลย เพราะเรามีหน้าที่แค่ให้คำแนะนำ แต่สิ่งที่ผู้นำควรจะทำ คือตามที่ท่านมหาเธร์บอก คือ อาเซียนต้องเป็นเสียงเดียวกัน เพื่อให้ประเทศที่เป็นมหาอำนาจฟังเราบ้าง บอกพี่ใหญ่สองประเทศให้เพลาๆ ลง ตอนนี้มันวุ่นวายกันไปหมดแล้ว และเชื่อว่าแนวทางนี้จะเกิดขึ้นในช่วงการประชุมอาเซียนซัมมิทรอบนี้" นายอรินทร์ระบุ
พร้อมย้ำว่า สภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียนจะตอกย้ำประเด็นนี้ไปจนกว่าผู้นำอาเซียนจะเห็นว่าปัญหาสงครามการค้าเป็นเรื่องที่สำคัญจริงๆ