นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการเข้าพบของผู้บริหารกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ว่า ผู้บริหาร IMF ได้ร่วมหารือถึงสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันของโลกและของไทย โดยมองว่าเศรษฐกิจโลกยังมีความท้าทายจากหลายปัจจัยทั้งสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน, กรณีอังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (BREXIT) ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วส่งผลให้เศรษฐกิจโลกได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ "เขาใช้คำว่า synchronize slowdown คือ หลายปัจจัยมารวมกัน มายำกันในช่วงนี้ และดึงเศรษฐกิจโลกให้ชะลอตัว จึงกระทบกับทุกประเทศ และไทยก็เป็นหนึ่งในนั้น" รมว.คลังกล่าว พร้อมกันนี้ IMF ยังมองว่าประเทศไทยมีความโชคดีที่เศรษฐกิจมหภาคยังมีความแข็งแกร่ง จึงทำให้ยังมี space ที่จะใช้เครื่องมือทางด้านการเงินและการคลังเพื่อดูแลเศรษฐกิจในช่วงเวลาเฉพาะหน้านี้ "ในมุมมองของ IMF หลังจากที่เขาได้วิเคราะห์ประเทศไทยแล้ว เขาเห็นว่าไทยจำเป็นต้องดูแลเศรษฐกิจให้ผ่านพ้นช่วงนี้ไปให้ได้ และดูแลใกล้ชิด และที่สำคัญ คือ ให้พิจารณาใช้ทุกเครื่องมือที่มีเพื่อดูแลเศรษฐกิจในช่วงนี้ให้ได้ ทั้งการเงินและการคลัง เหตุผลหลักคือ เรามีความแข็งแกร่ง เรามีความสามารถที่จะใช้ได้ และต้องใช้ให้ทันการณ์" นายอุตตม ระบุ ส่วนการดูแลเศรษฐกิจในระยะยาวนั้น IMF เน้นให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจไทย และมองว่าเรื่องที่สำคัญที่สุดคือการพัฒนาบุคลากรของประเทศให้มีทักษะ ทั้งด้านดิจิทัล และด้านต่างๆ ให้เพียงพอกับยุค New Economy