"เบอร์นันเก้"ชี้ศก.สหรัฐเสี่ยงเผชิญขาลง ขณะส่งสัญญาณอาจลดดอกเบี้ยอีก

ข่าวต่างประเทศ Thursday February 28, 2008 06:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงมุมมองด้านเศรษฐกิจต่อคณะกรรมาธิการด้านการเงินแห่งสภาคองเกรสของสหรัฐว่า เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงอย่างมากในช่วงครึ่งหลังของปี 2550 อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการเฟดกำลังจับตาดูสถานการณ์เหล่านี้อย่างใกล้ชิดและพร้อมที่จะใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวต่อไปได้ ทั้งนี้ แถลงการณ์ดังกล่าวทำให้นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าเฟดเตรียมลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมเดือนมี.ค.
"คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดกำลังประเมินข้อมูลทุกๆด้านที่บ่งชี้แนวโน้มเศรษฐกิจ และเราจะใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวต่อไปได้ และเพื่อให้มั่นใจว่ามาตรการที่ใช้จะสามารถยับยั้งเศรษฐกิจไม่ให้ถดถอยได้" เบอร์นันเก้กล่าว
"เหตุผลหลักที่ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างมากนั้น มาจากตลาดที่อยู่อาศัยที่ซบเซาลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเบื้องต้น แม้เฟดประมาณการว่าตลาดที่อยู่อาศัยจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นในปีหน้าและจะแข็งแกร่งขึ้นในปี 2553 แต่เฟดยอมรับว่าความเสี่ยงที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเผชิญช่วงขาลงนั้นยังมีอยู่ ข้อมูลที่เรารวบรวมได้ตั้งแต่การประชุมในเดือนม.ค.บ่งชี้ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงในระยะใกล้นี้"
"ปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเสี่ยงที่จะเผชิญช่วงขาลงนั้น ส่วนหนึ่งมาจากตลาดที่อยู่อาศัยและตลาดแรงงานที่มีแนวโน้มทรุดตัวลงมากกว่าที่ประเมินไว้ในเบื้องต้น และตลาดสินเชื่อที่คาดว่าจะยังคงตึงตัวต่อไปอีก"
"ส่วนตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่า 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐนั้น เริ่มฟื้นตัวขึ้นบ้างแล้ว แม้ตลาดที่อยู่อาศัยชะลอตัวลง ซึ่งก่อนหน้านี้ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นทำให้อำนาจซื้อของผู้บริโภคลดน้อยลง และตัวเลขจ้างงานที่ปรับตัวลดลงทำให้ความสามารถในการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนปรับตัวลดลงด้วย"
"เฟดคาดว่าตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างอาคารพาณิชย์จะลดลงอย่างมากในอีกไม่กี่ไตรมาสข้างหน้านี้เนื่องจากตัวเลขการลงทุนในภาคธุรกิจชะลอตัวลงและการยื่นขอวงเงินกู้ทำได้ยากขึ้น อย่างไรก็ตาม คาดว่าภาคส่งออกจะยังคงขยายตัวได้ดี" เบอร์นันเก้กล่าว
นอกจากนี้ เบอร์นันเก้กล่าวว่าคณะกรรมการเฟดจะจับตาดูตัวเลขเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด เนื่องจากราคาน้ำมันและราคาสินค้าประเภทอื่นๆปรับตัวสูงขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา เนื่องจากราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้น สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ