"เมืองไทยประกันชีวิต" ทุ่มงบ 3.8 พันลบ.ลงทุนอสังหาฯในโครงการสนง."66 Tower" บนทำเลสุขุมวิท คาดแล้วเสร็จ Q2/64

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 5, 2019 14:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต (MTL) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ทุ่มงบ 3,800 ล้านบาท ลงทุนโครงการอาคารสำนักงานให้เช่า "66 Tower" The Living Workplace Solution บนถนนสุขุมวิท ใกล้ซอยสุขุมวิท 66 ออกแบบภายใต้คอนเซปต์ Human Centric Living Workplace โดยเน้นผู้ใช้งานอาคารเป็นศูนย์กลาง ซึ่งเริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จได้ประมาณไตรมาสที่ 2/64 โดยมีบริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CBRE เป็นตัวแทนในการปล่อยเช่าพื้นที่สำนักงานแต่เพียงผู้เดียว

ปัจจุบันบริษัทฯ มีการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ คิดเป็นสัดส่วน 1% ซึ่งยังเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดไว้ไม่เกิน 15% ของการลงทุนในสินทรัพย์ หรือคิดเป็นมูลค่ารวม 70,000 ล้านบาท ได้แก่ อาคารเมืองไทยภัทร คอมเพล็กซ์ ที่ได้มีการเข้าซื้อมาบริหารต่อตั้งแต่ 9 ปีที่แล้ว และล่าสุดอาคาร 66 Tower ที่เป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมด

"เราเป็นบริษัทประกัน เราก็มองหาการลงทุนในระยะยาว เหมือนกับการทำประกัน ซึ่งก็คือพร็อพเพอร์ตี้ และที่ผ่านมาเราเองหลายคนอาจมองว่าเป็นคนหน้าใหม่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ แต่เราถือว่าเรามีประสบการณ์มานานแล้ว เนื่องจากเมื่อ 9 ปีก่อน เราก็มีการเข้าไปซื้ออาคารเมือไทยภัทรมาบริหาร ประกอบกับก็มองว่าในอนาคตยังมีความต้องการและยังมีการเติบโตอย่างมาก สำหรับออฟฟิศให้เช่า ซึ่งสิ่งที่เราดูคือ การดีไซน์ของตัวออฟฟิศต้องตอบโจทย์ผู้เช่า ทั้งในแง่ขององค์กรก็ดี เรื่องของโลเกชั่นที่ต้องตอบโจทย์การเดินทาง ทั้งทางด่วน และรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยใช้เวลาเดินทางไม่นาน ซึ่งเนื้อที่จะเริ่มได้ตั้งแต่ 100 ตารางเมตรขึ้นไป"

อาคาร 66 Tower มีพื้นที่ทั้งหมด 35,000 ตารางเมตร ขณะที่ความต้องการออฟฟิศให้เช่าต่อปี จะอยู่ที่ 150,000-200,000 ตารางเมตร ซึ่งถือว่ายังมีความต้องการอยู่อีกมาก ทำให้มองว่าออฟฟิศให้เช่าของบริษัทฯ น่าจะเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ดีและตอบโจทย์ให้กับผู้เช่าทั้งในประเทศและต่างประเทศ หรือบริษัทขนาดเล็ก จนไปถึงบริษัทขนาดใหญ่ได้

นายสาระ กล่าวว่า จุดเด่นของโครงการอยู่ที่โถงล็อบบี้ (Main Office Lobby) ที่ออกแบบมาให้มีความ Grand and Welcoming ด้วยความสูงโปร่งถึง 10 เมตร เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ให้กับผู้เช่าทุกรายที่มาเช่าพื้นที่ในอาคาร ส่วนภายในพื้นที่เช่าออกแบบให้มีความสูงโปร่งถึง 3 เมตรมากกว่ามาตรฐานอาคารสำนักงานทั่วไปพร้อมระยะจาก Core to Window กว้างถึง 15 เมตรโดยไม่มีเสากั้นตรงกลางพื้นที่หรือที่เรียกว่า Column Free Design ช่วยให้ผู้เช่าสามารถออกแบบพื้นที่ได้หลากหลายฟังก์ชันและใช้สอยพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดขนาดพื้นที่เช่าของอาคารสามารถรองรับผู้เช่าได้ตั้งแต่ 100 ตารางเมตรขึ้นไปและยังตอบโจทย์ความต้องการของผู้เช่าพื้นที่ขนาดใหญ่ด้วยการรองรับการเชื่อมต่อระหว่างชั้นในพื้นที่เช่าได้ (Private Inter-Floor Access)

นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ ง่ายต่อการเชื่อมต่อเศรษฐกิจชั้นในและโซนธุรกิจอุตสาหกรรม รวมถึงพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC: Eastern Economic Corridor) และอาคารตั้งอยู่ใกล้ BTS สถานีอุดมสุขเพียง 150 เมตร สะดวกต่อการเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้ารถโดยสารประจำทาง อีกทั้งยังใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนทั้ง 3 สาย (ทางด่วนเฉลิมมหานคร ทางด่วนฉลองรัช และทางด่วนบูรพาวิถี) รวมถึงสามารถเดินทางไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้อย่างรวดเร็ว

ด้านนายนิธิพัฒน์ ทองพันธุ์ กรรมการบริหารและหัวหน้าแผนกพัฒนาธุรกิจ บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CBRE กล่าวว่า ตลาดอาคารสำนักงานในกรุงเทพมหานครในครึ่งปีแรกที่ผ่านมายังมีการเติบโตต่อเนื่อง โดยมีอัตราพื้นที่ว่างเพียง 7% และในส่วนของค่าเช่ายังคงขยับขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน แต่ขยับขึ้นในอัตราที่ลดลง ขณะที่ซัพพลายยังมีจำกัด ซึ่งมองว่าในปี 64 เป็นต้นไปโครงการใหม่ๆ จะเริ่มเข้าสู่ตลาดมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการแข่งขันสูง โดยจะเป็นช่วงที่อาคาร 66 Tower ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ ก็ถือเป็นจังหวะที่ดีอย่างมาก

จากแนวโน้มที่เกิดขึ้นทั่วโลก ตลาดพื้นที่สำนักงานในกรุงเทพฯ เองก็ได้เปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากผู้เช่าจำนวนมากจะเปลี่ยนรูปแบบพื้นที่ทำงานเป็นพื้นที่ทำงานที่มีความคล่องตัว (Agile Workplace) โดยมีการใช้กลยุทธ์ในการจัดพื้นที่ทำงาน (Workplace Strategy) เพื่อให้ใช้พื้นที่น้อยลงแต่เพิ่มคนได้มากขึ้นซึ่งกลยุทธ์ในการจัดพื้นที่ทำงานแบบใหม่นี้ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการเช่าพื้นที่สำนักงานในกรุงเทพฯโครงการ 66 Tower ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดที่กำลังเปลี่ยนไปไม่ว่าจะเป็นเรื่องการออกแบบพื้นที่สำนักงานที่มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานอาคารสำนักงานระดับเกรดเอ

อีกทั้งยังออกแบบโดยคำนึงถึงการเตรียมความพร้อมในการรองรับผู้เช่าจำนวนมากในอนาคต เช่น ความเร็วของลิฟต์ จำนวนห้องน้ำที่เพียงพอนอกจากนั้นผู้เช่ายังสามารถทำบันไดเชื่อมต่อระหว่างชั้นภายในพื้นที่สำนักงานของตนเองเพื่อตอบโจทย์การทำงานรูปแบบใหม่ที่มีความคล่องตัวและอาคารยังได้รับการออกแบบตามมาตรฐานอาคารสีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

นอกจากนี้ทำเลที่ตั้งที่ติดรถไฟฟ้า BTS สถานีอุดมสุข การมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทั้งภายในและโดยรอบโครงการรวมถึงมีห้องประชุมให้เช่าจึงเชื่อว่าโครงการ 66 Tower จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้เช่าในตลาดได้เป็นอย่างดี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ