ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของเกาหลีใต้ในเดือนม.ค. 2551 พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 11 ปี ซึ่งเป็นผลจากราคาวัตถุดิบ รวมถึงราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น จนส่งผลให้ตัวเลขค่าใช้จ่ายด้านการนำเข้าสินค้าปรับตัวสูงขึ้นตามมา
ธนาคารกลางเกาหลีใต้ระบุว่า บัญชีเดินสะพัดของเกาหลีใต้ในเดือนม.ค.ขาดดุลอยู่ 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นตัวเลขขาดดุลสูงสุดตั้งแต่เดือนม.ค.2540 ที่ระดับ 3.13 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับยอดขาดดุลที่ 813.8 ล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา
หยาง แจ-รอง ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายตัวเลขสถิติบัญชีการค้าของเกาหลีใต้กล่าวว่า "ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดยอดขาดดุลการค้า"
ทั้งนี้ บัญชีเดินสะพัดถือเป็นมาตรวัดบรรยากาศการค้าในวงกว้างที่สุด ซึ่งครอบคลุมกระแสการหมุนเวียนของรายได้จากสินค้า บริการ และการลงทุนระหว่างประเทศ
โดยธนาคารกลางคาดว่า บัญชีเดินสะพัดเกาหลีใต้อาจขาดดุลถึง 3 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2540 จากราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเกาหลีใต้ต้องพึ่งการนำเข้าน้ำมันดิบทั้งหมดจากต่างประเทศ
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า เกาหลีใต้มียอดนำเข้าพุ่งขึ้นแตะที่ 3.566 หมื่นล้านดอลลาร์จากระดับ 3.332 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบ เหล็ก และสินค้าประเภทธัญพืชปรับตัวสูงขึ้น
ขณะที่ยอดส่งออกก็ปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 3.465 หมื่นล้านดอลลาร์จากระดับ 3.377 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากอุปสงค์ด้านโทรศัพท์มือถือและเหล็กจากต่างประเทศที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--