จังหวัดที่มีการจับจ่ายใช้สอยในโครงการชิมช็อปใช้มากที่สุด คือ กาญจนบุรี มีการใช้จ่ายทั้งหมด 147 ล้านบาท และมีการใช้จ่ายผ่านกระเป๋า 2 สัดส่วน 8.3% ของยอดใช้จ่ายรวม โดยที่มีร้านค้าเข้าร่วมโครงการในสถานที่ท่องเที่ยวหลักบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำแควจำนวน 179 ร้านค้า ส่วนอีก 2 จังหวัด คือ ราชบุรี มียอดใช้จ่าย 47.9 ล้านบาท และมีสัดส่วนการใช้จ่ายผ่านกระเป๋า 2 อยู่ที่ 5% และสุพรรณบุรี มียอดใช้จ่าย 127.9 ล้านบาท และมีสัดส่วนยอดใช้จ่ายผ่านกระเป๋า 2 อยู่ที่ 8%
นอกจากนี้ธนาคารยังคงสนับสนุนผู้ประกอบทั้ง 3 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี ราชบุรี และสุพรรณบุรี โดยที่ผ่านมาธนาคารได้ปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการทั้ง 3 จังหวัดไปแล้ววงเงินรวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยที่สัดส่วนการให้สินเชื่อกับผู้ประกอบการใน 3 จังหวัด สัดส่วน 70% เป็นกลุ่มผู้ประกอบการเกษตรและอาหาร เช่น อ้อย ข้าว อาหารแปรรูป เป็นต้น พร้อมทั้งเดินหน้าสานต่อโครงการประชารัฐสร้างไทย เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว การค้าขาย ในจังหวัดต่างๆ เพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้แก่ผู้ประกอบการต่างๆใน 3 ด้าน ได้แก่ 1.การให้ความรู้ 2.การสร้างตลาดและหาตลาดใหม่ๆเพื่อหาโอกาสทางการตลาด และ 3.การเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อรองรับการขยายธุรกิจของผู้ประกอบ
ส่วนวิธีการชำระเงินเพื่อรับสิทธิเงินคืน เข้าแอพพลิเคชั่น "เป๋าตัง" เพียงกดที่เมนูใช้สิทธิรับเงินคืน 15-20% และเลือกใช้จ่ายร้านค้าถุงเงิน หลังได้ QR Code ให้ร้านค้าใช้แอพฯ ถุงเงินสแกน ผู้รับสิทธิตรวจสอบยอดเงินที่ต้องชำระ และกดยืนยันการชำระเงิน ในส่วนการรับเงินคืนจะมี 2 รอบ รอบแรกสำหรับการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย.- 30 พ.ย. 62 จะได้รับเงินคืนภายในกลางเดือนธ.ค. 62 และ รอบที่ 2 การใช้จ่ายในช่วงระหว่างวันที่ 1-31 ธ.ค. 62 จะได้รับเงินคืนภายในกลางเดือนม.ค. 63 และลูกค้าสามารถโอนเงินคืนจากโครงการชิมช้อปใช้เข้าบัญชีธนาคารของลูกค้าได้
นายผยง กล่าวถึงยอดการใช้จ่ายผ่านแอพฯ "เป๋าตัง" ในภาพรวมของทั้งประเทศ ณ วันที่ 9 พ.ย. 62 มีจำนวนทั้งสิ้น 1.17 หมื่นล้านบาท ใช้จ่ายผ่าน G -Wallet1 จำนวน 1.09 หมื่นล้านบาท และ G-Wallet 2 จำนวน 735 ล้านบาท แบ่งเป็นร้านค้าประเภทชิม 13.21% ร้านค้าประเภทช็อป 59.10% ร้านค้าประเภทใช้ 1.27% และร้านค้าทั่วไป 26.42%
โดยแอพฯถุงเงินและเป๋าตัง เป็นดิจิทัลแพลตฟอร์มที่สามารถรองรับการการทำธุรกรรมของผู้รับสิทธิตามมาตรการชิมช็อปใช้ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขั้นตอนการเติมเงินง่าย ไม่ซับซ้อน และสะดวกรวดเร็ว โดยเติมเงินผ่านการสแกน QR Code ด้วยแอพฯของทุกธนาคาร หรือเติมเงินผ่านตู้ ATM ของ 5 ธนาคารใหญ่ ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) และธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ด้วยบัตร ATM ที่ตรงกับตู้ธนาคารนั้นๆ เมื่อมีการใช้จ่ายผ่านกระเป๋า G-Wallet 2 ในร้านค้าที่ร่วมโครงการชิมช็อปใช้ได้ทุกจังหวัด ยกเว้นจังหวัดในทะเบียนบ้านจะได้รับสิทธิเงินคืน ยอดใช้จ่ายไม่เกิน 30,000 บาท รับเงินคืน 15% และยอดใช้จ่ายตั้งแต่ 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 50,000 บาท รับเงินคืน 20% รวมเงินคืนสูงสุด 8,500 บาท
ปัจจุบันร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการสามารถใช้จ่ายผ่าน G-Wallet 2 มีจำนวนกว่า 173,000 ร้านค้า ทั้งเครือโรงแรมเซ็นทารา ใบหยก แอคคอร์ ดุสิต ชาเทรียม ไฮแอท ไอเอชจี แมริออท ทีทีซี และโรงแรมรีสอร์ตอื่นๆ ทั่วประเทศประมาณ 4,600 แห่ง เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้รับสิทธิเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆ มากยิ่งขึ้น และมีการใช้จ่ายผ่านกระเป๋า G-Wallet 2 เพิ่มขึ้น ณ วันที่ 9 พ.ย. 62 มียอดการใช้จ่ายกว่า 735 ล้านบาท