ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงใกล้แตะระดับต่ำสุดเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรที่ตลาดปริวรรตเงินตราฮ่องกงบ่ายวันนี้ (28 ก.พ.) หลังจากที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาส่งสัญญาณเมื่อวานนี้ว่า เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยลงอีกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัว
นายเบอร์นันเก้กล่าวกับสภานิติบัญญัติของสหรัฐว่า เฟดได้ปรับลดประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐปี 2551 มาอยู่ในระดับต่ำสุดที่ 1.3% จากระดับสูงสุดที่ตั้งเป้าไว้ในก่อนหน้านี้ที่ 2.5%
"ถ้อยแถลงของเบอร์นันเก้ได้เพิ่มความหวั่นวิตกว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจเข้าสู่ภาวะชะลอตัว" ทิม กอนดอน นักวิเคราะห์จากไอเอ็นจี ไฟแนนเชียล มาร์เก็ตส์กล่าว
เศรษฐกิจสหรัฐน่าจะยังคงซบเซาในช่วงไตรมาสนี้ จากการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ลดลง ขณะที่อัตราว่างงานเพิ่มสูงขึ้น และภาคตลาดอสังหาริมทรัพย์และการเงินทรุดตัวลง
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จากไอเอ็นจี คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ในที่ประชุมวันที่ 18 มี.ค.นี้ และคาดว่าจะยังมีแนวโน้มลดดอกเบี้ยต่อเนื่องไปจนถึงช่วงไตรมาสสองของปีนี้
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 12.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวที่ระดับ 1.5107 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับ 1.5116 ดอลลาร์ต่อยูโรที่ตลาดโตเกียวเช้าวันนี้ ขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐขยับขึ้นแตะ 106.38 เยนต่อดอลลาร์จากระดับ 106.27 เยนต่อดอลลาร์
ทั้งนี้ เงินยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ที่ระดับ 1.5143 ดอลลาร์ต่อยูโรเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นสถิติสูงสุดตั้งแต่ที่ได้มีการซื้อขายเงินยูโรในเดือนม.ค.ปี 2542 โดยเงินยูโรมีแนวโน้มว่าจะยังเคลื่อนไหวในระดับที่แข็งแกร่งจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรปจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไปจนถึงไตรมาสที่สามของปีนี้เป็นอย่างต่ำ
ขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงหลังจากทางการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอ ซึ่งยิ่งตอกย้ำถึงความหวั่นวิตกว่าสหรัฐจะเผชิญภาวะ Stagflation ซึ่งเป็นภาวะที่เศรษฐกิจถดถอยแต่ขณะเดียวกันก็มีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น โดยทางกระทรวงพาณิชย์รายงานวานนี้ว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนม.ค.ร่วงลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และเป็นอัตราการชะลอตัวต่ำสุดในรอบเกือบ 13 ปี นอกจากนี้ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนที่ผ่านมายังร่วงหนักถึง 5.3%
ไดซูเกะ อูโนะ นักวิเคราะห์จากซูมิโตโมะ มิตซุย แบงกิ้งกล่าวว่า "จากปัจจัยชี้นำเศรษฐกิจของสหรัฐที่เป็นไปในเชิงลบ ทำให้เทรดเดอร์ลดการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรปจะปรับลดดอกเบี้ย ซึ่งภาวะดังกล่าวได้เป็นปัจจัยหนุนค่าเงินยูโร และอาจส่งให้เงินยูโรพุ่งขึ้นไปแตะที่ระดับ 1.525 ดอลลาร์ต่อยูโรได้"
ด้านเงินสกุลดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นไต่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 23 ปีที่ระดับ 94.60 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลียที่ตลาดซิดนีย์เช้านี้ โดยเงินดอลลาร์ได้รับปัจจัยหนุนจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น และจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางออสเตรเลียจะปรับขึ้นอัตตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
ทั้งนี้เงินดอลลาร์ออสเตรเลียซื้อขายกันที่ 94.21 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 97.32 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลียที่ตลาดโตเกียวเช้าวันนี้
จอห์น นูนาน นักวิเคราะห์จากทอมสัน ไอเอฟอาร์คาดว่า ธนาคารกลางออสเตรเลียอาจขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ในที่ประชุมสัปดาห์หน้า
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--