แหล่งข่าวจากสำนักงานศุลกากรจีนเปิดเผยว่า ยอดส่งออกเหล็กของจีนในปี 2550 ชะลอตัวลง แม้ว่าจีนยังมีสถานะเป็นประเทศผู้ส่งออกเหล็กสุทธิอยู่ก็ตาม
โดยเมื่อปีที่ผ่านมา ยอดส่งออกเหล็กม้วนของจีนขยายตัวอยู่ที่ 45.8% แตะระดับ 62.65 ล้านตัน ซึ่งตัวเลขดังกล่าวชะลอตัวลง 63.7% จากระดับในปีก่อนหน้านี้ ขณะที่มียอดนำเข้าเหล็กม้วนลดลง 8.8% มาอยู่ที่ 16.87 ล้านตัน ส่งผลให้จีนมียอดส่งออกเหล็กม้วนสุทธิอยู่ที่ 45.76 ล้านตัน
ทั้งนี้ แหล่งข่าวกล่าวว่า ยอดส่งออกเหล็กที่ชะลอตัวลงนั้น มีสาเหตุจากการที่รัฐบาลบังคับใช้นโยบายจำกัดการส่งออก
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นับตั้งแต่เดือนเม.ย.เป็นต้นมา จีนได้ปรับลดเงินคืนภาษีส่งออก และปรับเพิ่มภาษีส่งออก 4 ครั้ง พร้อมทั้งกำหนดให้เหล็กเป็นสินค้าที่ต้องได้รับการอนุญาตส่งออก โดยทางการมีเป้าหมายที่จะจัดระเบียบการส่งออกเหล็ก และกระตุ้นกำลังการผลิตเหล็กในประเทศ ขณะเดียวกันก็ต้องการที่จะเร่งการปรับโครงสร้างและยกระดับอุตสาหกรรมเหล็กให้ดียิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอัตราการขยายตัวด้านการส่งออกเหล็กจะปรับตัวลดลงแล้ว แต่ผลผลิตเหล็กภายในประเทศยังไม่อยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2550 ผู้ผลิตเหล็กชั้นนำของจีน 10 แห่ง ซึ่งมีกำลังการผลิตเหล็กคิดเป็น 35% ของยอดผลผลิตเหล็กทั้งหมดในประเทศยังมีกำลังการผลิตไม่ถึง 50% ของเกณฑ์ที่รัฐบาลกำหนดในปี 2553
เกาหลีใต้ สหภาพยุโรป และประเทศในกลุ่มอาเซียน ยังคงเป็นตลาดเป้าหมายในการส่งออกเหล็กของจีนเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งมีตัวเลขส่งออกคิดเป็น 33.34 ล้านตันหรือ 52.3% ของยอดส่งออกเหล็กทั้งหมดของจีน แต่อัตราการขยายตัวด้านการส่งออกเหล็กในตลาดทั้งสามแห่งปรับตัวลดลง 60.7% แตะที่ 45.7%
ทั้งนี้ จีนได้เปลี่ยนสถานภาพจากการเป็นผู้นำเข้าสุทธิมาเป็นผู้ส่งออกเหล็กม้วนสุทธิในปี 2549
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--