นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมแผนขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วน (Policy Quick Start)ร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพลังงาน เป็นครั้งที่ 2 ว่า ภายใน 3 เดือนจะเร่งดำเนินการในเรื่องของ โครงการโรงไฟฟ้าชุมชน นโยบายผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการซื้อขายก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และ มาตรการแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5)
โดยในส่วนของโรงไฟฟ้าชุมชน ทางกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน(พพ.) จะสรุปรูปแบบและรายละเอียดโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ในวันที่ 4 ธ.ค.62 จากนั้นจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ประมาณกลางเดือน ธ.ค.62 จากนั้นจะเริ่มโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนได้ทันที
ส่วนนโยบายฮับ LNG นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาปรับพื้นฐานโครงสร้างก๊าซธรรมชาติเพื่อรองรับการเป็นฮับ LNG ทั้งท่าเรือ คลังเก็บ LNG และการซื้อขายก๊าซฯเป็นต้น ทั้งนี้กระทรวงพลังงานจะต้องเริ่มจากการกำหนดนโยบายที่ชัดเจนก่อน ซึ่งคาดว่าจะนำเสนอหลักการและโครงสร้างฮับ LNG ต่อที่ประชุม กพช. ในกลางเดือน ธ.ค.62 นี้เช่นกัน
ส่วนมาตรการลดปัญหาฝ่น PM2.5 นั้น คาดว่าจะประกาศได้ไม่เกินเดือน ม.ค.63 เนื่องจากจะประกอบด้วย การส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะประกาศนโยบาย จำนวนเป้าหมายการใช้รถ EV สถานีชาร์จ และอัตราค่าชาร์จไฟฟ้า เป็นต้น และการประกาศนโยบายส่งเสริมการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ซึ่งตั้งเป้าหมายจะประกาศได้ประมาณต้นปี 63
ด้านนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ยังคงเดินหน้านำร่องกระบวนการทดลองนำเข้า LNG สำหรับผลิตไฟฟ้า ตามมติ กบง. เมื่อวันที่ 21 ต.ค.62 ที่กำหนดให้ กฟผ.นำเข้า LNG แบบ Spot โดยให้นำเข้า 2 ลำเรือ ลำเรือละ 65,000 ตัน และช่วงเวลาการนำเข้าที่เหมาะสมลำแรกประมาณเดือน ธ.ค.62 และลำที่ 2 ประมาณเดือน เม.ย.63
ส่วนกรณีการประมูลนำเข้า LNG 1.5 ล้านตันต่อปี ที่ กฟผ.ดำเนินการเปิดประมูลและได้ผู้ชนะคือ บริษัท Petronas LNG limited จากประเทศมาเลเซียนั้น การพิจารณาจะล้ม เลิก การประมูลหรือเลื่อนการนำเข้าLNG นั้น กฟผ.จะต้องพิจารณากฎหมายการจัดซื้อจัดจ้างก่อน จึงจะได้ความชัดเจนต่อไป