นางสาวสุวรรณี มหณรงค์ชัย รองกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนากลยุทธ์และบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า แม้ว่าภาพของอสังหาริมทรัพย์โดยรวมในปี 62 จะไม่สดใสเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่ตลาดบ้านเดี่ยวที่เป็นตลาดรองรับความต้องการของผู้อยู่อาศัยที่แท้จริง (Real Demand) ก็ยังเติบโตได้อย่างน่าสนใจ
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีบางทำเลที่มีการเติบโต โดยเฉพาะทำเลบนถนนบางนาตราดและบริเวณรอบๆ ที่พบว่ามีหลายโซนมีอุปสงค์เข้ามาดูดซับอุปทานได้อย่างโดดเด่น กลายเป็นพื้นที่ที่มีอุปสงค์สูงกว่าค่าเฉลี่ยของพื้นที่กรุงเทพมหานคร เช่น โซนบางพลี บางเสาธง และบางบ่อ ที่พบว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 62 มีอุปทานบ้านเดี่ยวจากโครงการที่เปิดขายอยู่ในพื้นที่ราว 6,500 ยูนิต จากจำนวนดังกล่าวมีอัตราการขายอยู่ที่ 88% ซึ่งการขายบ้านเดี่ยวในทำเลนี้อัตราการขายจะอยู่ที่ระดับสูงกว่า 80% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม การขายในครึ่งแรกของปี 62 ถือว่ามีความโดดเด่นเพราะเป็นอัตราการขายที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานครที่อยู่ระดับ 83% สะท้อนให้เห็นว่าเป็นอีกหนึ่งทำเลที่น่าสนใจ
พร้อมกันนั้น ยังพบว่าในโซนนี้มีอุปทานใหม่เข้ามาในตลาดปีละ 1,200-1,800 ยูนิต ในขณะที่อุปสงค์ใหม่ที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปีอยู่ในระดับเดียวกัน ซึ่งถือว่าเป็นความต้องการที่สมดุล โดยอัตราการดูดซับในช่วงครึ่งปีแรกเฉลี่ยอยู่ที่ 3.68 หลังต่อเดือน สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั้งตลาดที่ 2.82 หลังต่อเดือน
สำหรับระดับราคาของบ้านเดี่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในทำเลเหล่านี้ คือบ้านเดี่ยวในระดับราคา 5-7 ล้านบาท พบว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 62 มีอุปทานจากโครงการที่เปิดขายอยู่ในราว 1,800 ยูนิต มีอัตราการขายและอัตราการดูดซับดีที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับระดับราคาอื่นในพื้นที่เดียวกัน โดยอัตราการขายอยู่ที่ 95% และมีอัตราการดูดซับที่ 5.41 หลังต่อเดือน และยังถือว่าเป็นอัตราการดูดซับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของทุกทำเลในกรุงเทพมหานครในระดับราคาเดียวกันที่มีการดูดซับอยู่ที่ 3.33 หลังต่อเดือน
"ทำเลบางนา-ตราด รวมถึงถนนแยกย่อยในพื้นที่ใกล้เคียง อาทิ ศรีวารีน้อย (บางนา-ตราด กม.18) ยังเป็นทำเลเด่น พบการลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ๆ อีกทั้งมีการคมนาคมเชื่อมต่อที่สะดวก และยังได้รับอานิสงส์จากการพัฒนาระบบโครงข่ายคมนาคม ที่มารองรับสนามบินสุวรรณภูมิ"นางสุวรรณี กล่าว