นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ได้เรียกผู้บริหารสายการบินโลว์คอสต์ 7 ราย และผู้ประกอบการน้ำมัน 5 ราย มาหารือถึงผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่อง เจ็ตเอ 1 ที่ปรับขึ้นจาก 0.20 บาทต่อลิตร เป็น 4.70 บาทต่อลิตร ในปี 2560 โดยผู้ประกอบการต้องการให้ปรับลดอัตราภาษี เพราะได้รับผลกระทบอย่างมาก เนื่องจากส่งผลให้มีต้นทุนภาษีเพิ่มขึ้น 20 เท่า ดังนั้นจึงขอให้ผู้ประกอบการไปทำแผนมาเสนอภายใน 2 สัปดาห์ว่าถ้ามีการปรับลดภาษีให้จริง จะมีแผนช่วยภาคการท่องเที่ยว เป็นประโยชน์ในเชิงสาธารณอย่างเป็นรูปธรรมอย่างไร
"ขอความกรุณาผู้ประกอบการโลว์คอสต์ไปวิเคราะห์ข้อมูล เตรียมตัวเลขมาให้ชัดเจนถ้าต้องลดภาษี จะเกิดประโยชน์ต่อภาคการท่องเที่ยว และต้องเป็นแนวทางที่จับต้องได้ เช่น จะเพิ่มเที่ยวบินไปยังจังหวัดเมืองรองเท่าไหร่ กระตุ้นการท่องเที่ยวได้อย่างไร ซึ่งจะต้องเชิญการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มาหารือด้วยครั้งหน้า" นายพชร กล่าว
ทั้งนี้ ถ้าผู้ประกอบการสายการบินโลว์คอสต์บอกได้ว่าลดภาษีแล้ว จะเกิดประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวอย่างไร ต้องเป็นประโยชน์สาธารณะ ไม่ใช่การเอื้อต่อเอกชน กรมฯ จะสามารถลดภาษีได้ ซึ่งปัจจุบันกรมฯ เก็บภาษีน้ำมันเครื่องบินที่ 3 พันล้านบาทต่อปี ไม่ได้เป็นวงเงินมากมาย แต่ก็ต้องมีข้อเสนอมาแลกเปลี่ยนด้วย ซึ่งหากข้อเสนอไม่เป็นรูปธรรม กรมฯ ก็ต้องปฏิเสธข้อเสนอขอลดภาษีน้ำมัน แม้ว่าผู้ประกอบการจะระบุว่า ปัจจุบันมีต้นทุนเชื้อเพลิง 30% และเริ่มมีผลกระทบต้องลดเที่ยวบินในเมืองหลัก เช่น เชียงใหม่ จาก 15 ไฟลท์ต่อวัน เหลือ 10 ไฟลท์ต่อวันก็ตาม
นายพชร กล่าวว่า ในส่วนของบมจ.การบินไทย (THAI) และสายการบินไทยสไมล์ ไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย แต่จากการหารือนั้น การบินไทย ชี้แจงว่า ต้นทุนภาษีสรรพสามิตน้ำมันแค่ 5% เท่านั้น ไม่ได้มีผลกระทบมาก และไม่ได้ให้บริการเที่ยวบินในประเทศมากนัก ส่วนไทยสไมล์ ไม่ได้มีปัญหาเรื่องภาษีสรรพสามิตน้ำมัน แต่เสนอว่าถ้ามีการปรับลด ก็ควรต้องได้ประโยชน์กับทุกสายการบิน
ด้านนายอนวัช ลีละวัฒน์วัฒนา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. การบินกรุงเทพ (BA) หรือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เปิดเผยว่า การลดภาษีจะช่วยในเรื่องของการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวเช่นนี้ ที่จำเป็นต้องสนับสนุนให้เกิดการท่องเที่ยวในเมืองรอง ซึ่งแนวโน้มปัจจุบัน นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ได้มาประเทศไทย แต่เดินทางไปประเทศใกล้เคียงเพิ่มขึ้น เพราะไม่ได้ต้องการมาเที่ยวซ้ำ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องดึงเมืองรองขึ้นมาให้มีการท่องเที่ยวใหม่ๆ และสายการบินก็จะเป็นตัวช่วยดึงนักท่องเที่ยวได้
อย่างไรก็ดี ไม่สามารถบอกได้ว่าหากมีการลดภาษีน้ำมันแล้ว จะมีการปรับลดค่าโดยสารหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2560 ถึงปัจจุบัน เส้นทางบินในประเทศโดยเฉลี่ยไม่ได้มีการปรับราคาขึ้นเลย มีแต่จะปรับลดลง ขณะที่การปรับลดภาษีน้ำมันควรพิจารณาถึงประโยชน์ที่ได้ มากกว่าการเทียบการเดินทางในโหมดอื่นๆ
"ปัจจุบันสายการบินโลว์คอสต์ที่บินเมืองรอง ก็รู้อยู่แล้วว่าต้องขาดทุนแน่นอน แต่ก็หวังว่าในอนาคต เส้นทางเมืองรองจะสร้างกำไรได้ การลดภาษีจึงเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการและกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวได้" นายอนวัชกล่าว