เจ้าหน้าที่จากภาคธุรกิจธนาคารของสิงคโปร์เปิดเผยว่า ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งในสิงคโปร์เพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยเงินกู้เพื่อการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ เช่น การสร้างอาคารสำนักงาน หรือการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย เนื่องจากตลาดเงินทั่วโลกมีความผันผวน ขณะที่สภาพคล่องของตลาดสินเชื่อภายในประเทศยังคงตึงตัว
หนังสือพิมพ์บิสิเนส ไทม์ รายงานโดยอ้างคำกล่าวของทาน เท็ก ลอง ผู้อำนวยการด้านธุรกิจสถาบันธนกิจและวาณิชธนกิจของธนาคารดีเอสบี แบงค์กล่าวว่า "สิงคโปร์มีการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่อยู่ 2 โครงการ คือ โครงการสร้างที่พักตากอากาศแบบครบวงจรที่รวมเอาบ่อนคาสิโนมาไว้บริการในพื้นที่เดียวกัน ซึ่งโครงการทั้งสองแห่งนี้ต้องอาศัยสภาพคล่องสูง"
ทั้งนี้ กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจคาสิโนอย่างลาสเวกัส แซนด์ได้กู้เงินจากธนาคารเป็นวงเงิน 5.2 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์เพื่อพัฒนาโครงการรีสอร์ทคาสิโนที่มารีน่า เบย์ ขณะที่เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เกนติ้ง อินเตอร์เนชั่นแนล เพิ่งได้เงินกู้ทั้งสิ้น 4.2 พันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างรีสอร์ทแบบเดียวกันนี้บนเกาะเซนโตซ่า
"การปล่อยเงินกู้ให้กับโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เริ่มเข้มงวดมากขึ้นตั้งแต่ช่วงไตรมาสก่อนหน้านี้ ซึ่งสภาพคล่องในระบบธนาคารมีความตึงตัวอันเป็นผลจากความต้องการลงทุนในตลาดทุนที่มีความเสี่ยงเริ่มปรับตัวลดลง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนของตลาดในขณะนี้" พอล กวี ประธานฝ่ายวาณิชธนกิจและอสังหาริมทรัพย์ของซิตี้กรุ๊ปกล่าว สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--