นายเฮนรี พอลสัน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวว่า ข้อเสนอต่างๆที่ได้มีการผลักดันเพื่อรับมือกับปัญหาตลาดที่อยู่อาศัยร่วงลงนั้น อาจจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี และเชื่อว่าปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยจะยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงช่วงขาลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐ โดยยอดผู้จำนองถึง 93% มีการชำระเงินตรงเวลา และคิดเป็นสัดส่วนเพียงไม่ถึง 2% เท่านั้นที่ผิดนัดชำระ
พอลสันกล่าวว่า ขณะที่มีการเสนอให้มีการแทรกแซงต่างๆ ข้อเสนอส่วนใหญ่ที่ผมได้เห็นมานั้น น่าจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี และผมไม่ได้ให้ความสนใจกับมาตรการให้ความช่วยเหลือแก่นักลงทุน ผู้กู้ และกลุ่มนักเก็งกำไร ผมให้ความสนใจกับวิธีการแก้ปัญหาที่พุ่งเป้าไปที่เจ้าของบ้านที่ประสบปัญหาและต้องการรักษาบ้านของตัวเองเอาไว้
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า การออกมาแสดงความคิดเห็นของนายพอลสันนั้นบ่งชี้ถึงจุดยืนที่คัดค้านกับฝ่านบริหารที่มีข้อเสนอมากมายที่สมาชิกพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรสผลักดันอยู่ พอลสันกล่าวว่า การรับมือกับปัญหาการกู้เพื่อจำนองนี้จำเป็นต้องมีการแบ่งความรับผิดชอบร่วมกัน
รมว.คลังกล่าวว่า หากผู้กู้ไม่เต็มใจขอความช่วยเหลือ หรือปฏิบัติตามข้อเสนอ ฝ่ายที่รับผิดชอบก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองเพื่อแก้ปัญหา
ทั้งนี้ ประธานคณะกรรมการธนาคารของวุฒิสภาอย่างคริสโตเฟอร์ ด็อด และบาร์นีย์ แฟรงค์ ประธานคณะกรรมการบริการด้านการเงินเพื่อที่อยู่อาศัย กำลังทำหน้าที่เป็นแกนนำในสภาคองเกรส เพื่อสนับสนุนแผนการของรัฐบาลในการคลี่คลายวิกฤตซับไพรม์ ซึ่งได้มีการประเมินว่า ยอดการยึดบ้านที่ติดจำนองในปีนี้เพียงปีเดียวอาจจะมีมูลค่าสูงถึง 2 ล้านราย
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--