นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธาน วันนี้ (22 พ.ย.) ได้รับทราบความคืบหน้าการดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กม.วงเงิน 179,413 ล้านบาท ในส่วนของสัญญา 2.3 (สัญญาการวางราง และระบบการเดินรถ ระบบอาณัติสัญญาณ พร้อมขบวนรถ) มูลค่า 38,558.35 ล้านบาท ที่สรุปว่าจะดำเนินการโดยกู้เงินภายในประเทศ และชำระเป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐ (USD) สัดส่วน 85%
ทั้งนี้ ครม.เศรษฐกิจ ได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการในขั้นตอนการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน (Joint Committee หรือ JC) ครั้งที่ 28 เพื่อหาข้อสรุปในการกำหนดวันที่จะใช้เป็นวันกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนเงินกู้ รวมถึงกำหนดวันลงนามสัญญา 2.3 ต่อไป โดยในวันที่ 26 พ.ย.นี้ จะมีการเสนอมติดังกล่าวต่อที่ประชุม ครม.รับทราบตามขั้นตอน
ในส่วนของการกู้เงินนั้น ก่อนหน้านี้ ครม.เศรษฐกิจได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม หารือในประเด็นการกู้เงินสกุลใดที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์กับไทย ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้เชิญ 9 หน่วยงานร่วมประชุม เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ธนาคารกรุงไทย การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็นต้น
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เห็นว่าสามารถดำเนินการกู้เงินเป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐได้ โดยเรื่องความเสี่ยง สามารถทำการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้า (forward rate) ได้ ขณะที่ธนาคารกรุงไทยยืนยันว่าได้เคยดำเนินการในรูปแบบดังกล่าวมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กระทรวงคมนาคมได้ทำหนังสือประสานไปยัง นายนิ่ง จี๋เจ๋อ รองประธานคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน เพื่อนัดประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 28 เพื่อสรุปผลการหารือ และเร่งดำเนินการ ลงนามสัญญา 2.3 ภายในปี 2562 นี้ ซึ่งจะประชุมที่ไทย หรือจีนก็ได้ ฝ่ายไทยยินดี
"ฝ่ายจีนเสนอ การชำระเป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐ ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ภายในประเทศเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1.5-1.6% ในการเจรจาหน้าที่ของเราคือรักษาผลประโยชน์ของประเทศมากที่สุด ดังนั้นก็ต้องประชุมร่วมไทย-จีน เพื่อให้ชัดเจนและเห็นตรงกันทุกประเด็น" รมว.คมนาคม กล่าว