คลังเผยสิ้นต.ค.62 นิติบุคคลยื่นขอตั้งพิโกไฟแนนซ์-พิโกพลัส 1,231 ราย ได้รับอนุญาตแล้ว 1,106 ราย

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 29, 2019 15:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ในเดือน ต.ค.62 สศค.ได้ปรับปรุงประกาศ เรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 1 ต.ค.62 ในส่วนของรูปแบบการเขียนแผนการดำเนินธุรกิจ เพื่อช่วยลดข้อผิดพลาดในการจัดทำเอกสารประกอบการยื่นคำขออนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ให้กับผู้ประกอบธุรกิจ โดยแผนการดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค.62 เป็นต้นมา

สำหรับในเดือน ต.ค.62 นี้ จำนวนผู้สนใจยื่นคำขออนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) ทั้งประเภทพิโกไฟแนนซ์ และประเภทพิโกพลัส ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเปรียบเทียบกับเดือน ก.ย.62 ที่ผ่านมา เนื่องจากผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ทั้ง 2 ประเภท สามารถให้บริการสินเชื่อโดยรับสมุดคู่มือทะเบียนรถยนต์ รถจักรยานยนต์ หรือรถเพื่อการเกษตรเป็นประกัน หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า "สินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน" หรือ "สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ" ได้ด้วย

สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ นับตั้งแต่เดือน ธ.ค.59 จนถึง ณ สิ้นเดือน ต.ค.62 มีนิติบุคคลยื่นคำขออนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ทั้งประเภทพิโกไฟแนนซ์ และประเภทพิโกพลัส รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,231 ราย ใน 76 จังหวัด โดยจังหวัดที่มีผู้ยื่นคำขออนุญาตมากที่สุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ นครราชสีมา (110 ราย) กรุงเทพมหานคร (95 ราย) และขอนแก่น (64 ราย) ตามลำดับ

อย่างไรก็ดี ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว มีนิติบุคคลที่คืนคำขออนุญาตรวมจำนวนทั้งสิ้น 126 ราย ใน 51 จังหวัด จึงคงเหลือนิติบุคคลที่ยื่นคำขออนุญาตสุทธิเป็นจำนวน 1,106 ราย ใน 75 จังหวัด และมีผู้ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ทั้ง 2 ประเภท จำนวนทั้งสิ้น 712 ราย ใน 72 จังหวัด ซึ่งผู้ประกอบธุรกิจได้แจ้งเปิดดำเนินการแล้วจำนวน 617 ราย ใน 68 จังหวัด และได้ดำเนินการปล่อยสินเชื่อแล้วจำนวน 566 ราย ใน 68 จังหวัด โดยแบ่งเป็น

(1) สินเชื่อประเภทพิโกไฟแนนซ์ มีจำนวนผู้ยื่นคำขออนุญาตสุทธิทั้งสิ้น 997 ราย ใน 76 จังหวัด โดยมีผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อประเภทพิโกไฟแนนซ์แล้วจำนวน 701 ราย ใน 72 จังหวัด และมีผู้เปิดดำเนินการแล้วจำนวน 606 รายใน 68 จังหวัด (2) สินเชื่อประเภทพิโกพลัส มีจำนวนผู้ยื่นคำขออนุญาตสุทธิทั้งสิ้น 109 ราย ใน 43 จังหวัด ประกอบด้วยนิติบุคคลที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อประเภทพิโกไฟแนนซ์เดิมซึ่งได้รับใบอนุญาตและเปิดดำเนินการแล้วมายื่นขอเปลี่ยนใบอนุญาตเป็นสินเชื่อประเภทพิโกพลัสจำนวน 70 ราย ใน 35 จังหวัด และเป็นนิติบุคคลที่ยื่นคำขอใหม่จำนวน 39 ราย ใน 8 จังหวัด โดยมีผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อประเภทพิโกพลัสแล้วจำนวน 11 ราย ใน 6 จังหวัด และมีผู้เปิดดำเนินการแล้วจำนวน 11 ราย ใน 6 จังหวัด

สำหรับยอดสินเชื่ออนุมัติสะสม และยอดสินเชื่อคงค้างสะสม พบว่า ณ สิ้นเดือน ก.ย.62 มียอดสินเชื่ออนุมัติสะสมจำนวน 138,479 บัญชี รวมเป็นจำนวนเงิน 3,679.73 ล้านบาท หรือคิดเป็นวงเงินสินเชื่ออนุมัติเฉลี่ยจำนวน 26,572.47 บาทต่อบัญชี ประกอบด้วย สินเชื่อแบบมีหลักประกันจำนวน 68,199 บัญชี เป็นจำนวนเงิน 2,011.74 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 55 ของจำนวนยอดสินเชื่ออนุมัติสะสม และสินเชื่อแบบไม่มีหลักประกันจำนวน 70,280 บัญชี เป็นจำนวนเงิน 1,667.99 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 45 ของจำนวนยอดสินเชื่ออนุมัติสะสม

ส่วนยอดสินเชื่อคงค้างสะสม ณ สิ้นเดือน ก.ย.62 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 64,336 บัญชี คิดเป็นจำนวนเงิน 1,755.29 ล้านบาท โดยมีสินเชื่อคงค้างชำระ 1 - 3 เดือน สะสมรวมจำนวน 7,719 บัญชี คิดเป็นจำนวนเงิน 230.50 ล้านบาท หรือคิดเป็น 13.13% ของยอดสินเชื่อคงค้างสะสม และมีสินเชื่อคงค้างชำระที่เกินกว่า 3 เดือน (NPL) สะสมรวมจำนวน 6,818 บัญชี หรือคิดเป็นจำนวนเงิน 191.22 ล้านบาท หรือคิดเป็น 10.89% ของยอดสินเชื่อคงค้างสะสม

สินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉิน นับตั้งแต่เดือน มี.ค.60 ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้อนุมัติสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉินสำหรับเป็นทางเลือกให้กับประชาชนในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบทดแทนหนี้นอกระบบรายละไม่เกิน 50,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ย 0.85% ต่อเดือน โดยได้เร่งกระจายความช่วยเหลือด้านสินเชื่อดังกล่าวแก่ประชาชนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ

ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือน ต.ค.62 มีการอนุมัติสินเชื่อสะสมรวม 622,780 ราย เป็นจำนวนเงิน 27,361.33 ล้านบาท จำแนกเป็นสินเชื่อที่อนุมัติแก่ประชาชนทั่วไปจำนวน 577,099 ราย เป็นจำนวนเงิน 25,391.23 ล้านบาท และสินเชื่อที่อนุมัติให้กับผู้มีรายได้น้อยที่มีหนี้นอกระบบในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 60 จำนวน 45,681 ราย เป็นจำนวนเงิน 1,970.10 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ