กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เผยมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 30.15-30.35 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับระดับปิดอ่อนค่าที่ 30.23 บาท/ดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทย 6.4 พันล้านบาท และ 490 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ในเดือน พ.ย.เงินบาทอ่อนค่าราว 0.1% อยู่ในระดับกลางๆ เมื่อเทียบกับภูมิภาค ส่วนในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ เงินบาทแข็งค่าขึ้นกว่า 7% ซึ่งเป็นสกุลเงินที่แข็งค่ามากที่สุดในเอเชีย ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวของสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยหลังตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไตรมาส 3/62 และยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนแข็งแกร่งเกินคาดและสนับสนุนการคาดการณ์ของตลาดที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระยะนี้หลังจากปรับลดลงแล้ว 3 ครั้งติดต่อกัน
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตฯ มองว่า ตลาดโลกยังคงจับตาความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน หลังจีนกล่าวว่าจะดำเนินมาตรการตอบโต้อย่างจริงจังหากสหรัฐแทรกแซงกิจการภายใน โดยนักลงทุนมองว่าการลงนามของประธานาธิบดีทรัมป์เพื่อบังคับใช้กฎหมายสนับสนุนผู้ประท้วงในฮ่องกงจะส่งผลลบต่อแนวทางการยุติสงครามการค้า
อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมตลาดยังคงมีความหวังว่าการบรรลุข้อตกลงในเฟสแรกอาจเกิดขึ้นก่อนสิ้นปีนี้ ขณะที่ข้อมูลภาคการผลิตเดือน พ.ย.ของจีนบ่งชี้ถึงสัญญาณการฟื้นตัวซึ่งช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงและกลุ่มสกุลเงินตลาดเกิดใหม่ได้บ้าง นอกจากนี้ตลาดจะติดตามข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ส่วนเงินปอนด์จะผันผวนตามผลโพลล์ในสหราชอาณาจักรช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 12 ธ.ค.
สำหรับปัจจัยภายในประเทศ นักลงทุนให้ความสนใจกับดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน พ.ย.ซึ่งคาดว่าอาจกระเตื้องขึ้นเล็กน้อยแต่เงินเฟ้อทั่วไปยังหลุดขอบล่างของกรอบเป้าหมายคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ขณะที่ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่ายังกังวลกับเงินบาทที่แข็งค่าเร็วและมากกว่าสกุลเงินอื่นๆ โดยทางการได้เข้าดูแลต่อเนื่องสะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ดี ธปท.ให้ความเห็นว่าการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในระดับสูงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เงินบาทแข็งค่า ส่วนการเก็งกำไรระยะสั้นสำหรับเงินร้อนที่เข้ามาพักในไทยเกิดขึ้นเพียงบางช่วงเท่านั้น โดยทางการประเมินว่าเงินบาทจะผันผวนตามสถานการณ์ภายนอกนำโดยข้อพิพาททางการค้า อนึ่ง เราคาดว่านักลงทุนยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับท่าทีของทางการต่อค่าเงินบาท ขณะที่กระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายมีแนวโน้มซึมลงต่อไปในช่วงเดือนสุดท้ายของปี