เจพีมอร์แกนชี้เงินเฟ้อจีนไม่มีแนวโน้มสูงขึ้นกว่านี้ หลังCPIดีดแตะ 7.1%

          แฟรงค์ กอง นักเศรษฐศาสตร์ของเจพีมอร์แกนกล่าวว่า ภาวะเงินเฟ้อของจีนไม่มีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นอีกในปีนี้ หลังจากที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พุ่งแตะระดับสูงในรอบ 11 ปีที่ 7.1% เมื่อเทียบเป็นรายปีเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา โดยการขยายตัวของ CPI เดือนก.พ.จะอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบตามมาตรฐานรายเดือน แต่ะเมื่อเทียบมาตรฐานรายปี CPI น่าจะคลายตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 6.8%
          ทั้งนี้ นักสังเกตการณ์จำนวนมากคาดว่า อัตราการขยายตัว CPI เมื่อเทียบเป็นรายปีจะอยู่ในช่วง 8-10%
          สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า กองกล่าวว่า ข้อมูลที่กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยล่าสุดชี้ให้เห็นว่า ราคาสินค้าต่างๆได้ปรับตัวลดลงในระดับปานกลางจากระดับต้นเดือนก.พ.และม.ค. โดยในช่วงวันที่ 11-17 ก.พ.นั้น ราคาสัตว์ปีก ไข่ และเนื้อวัวปรับตัวลงกจากระดับสัปดาห์ก่อนหน้านี้ 0.1%, 0.5% และ 0.8% ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันปรุงอาหารปรับตัวสูงขึ้น 0.2%
          นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า สถิติที่ลดลงนี้ สะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์ที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติหลังจากช่วงวันหยุดตรุษจีน และพายุหิมะที่ส่งผลกระทบพื้นที่ต่างๆก็บรรเทาเบาบางลงแล้ว ทางด้านนายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า ของจีน ก็จะหาทางพยายามบรรเทาความหวั่นวิตกในตลาดเรื่องนโยบายของจีนในระหว่างกล่าวปราศรัยที่สภาประชาชนจีนในสัปดาห์นี้
          นายกองกล่าวว่า นายกฯจีนจะสร้างสมดุลด้านความเสี่ยงเงินเฟ้อ และภาวะเศรษฐกิจขยายตัวร้อนแรงเมื่อเทียบกับความเสี่ยงช่วงขาลงของการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อันเนื่องมาจากการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลกและภาวะถดถอยที่อาจจะเกิดขึ้นในส่วนของเศรษฐกิจสหรัฐ และย้ำว่า การดำเนินการนั้นจะขึ้นอยู่กับความจำเป็นสำหรับจีนในการรักษาอัตราการขยายตัวที่แข็งแกร่งและกระตุ้นการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน