นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 30.35 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวัน ศุกร์ (6 ธ.ค.) ที่ปิดตลาดที่ระดับ 30.30/38 บาท/ดอลลาร์
"เช้านี้ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบเกือบทุกสกุลหลักยกเว้นเงินเยน หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาดีเกินคาด"นัก
สำหรับวันนี้มองว่าเงินบาทยังมีโอกาสอ่อนค่าได้อีก ประเมินกรอบการเคลื่อนไหววันนี้ระหว่าง 30.30 - 30.40 บาท/ ดอลลาร์
THAI BAHT FIX 3M (6 ธ.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.13144% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.11675%
SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 30.3525 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.58 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ (6 ธ.ค.) ที่อยู่ที่ระดับ 108.50 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1058 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ (6 ธ.ค.) ที่อยู่ที่ระดับ 1.1086/1099 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 30.3510 บาท/ดอลลาร์
- ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสำหรับสัปดาห์นี้ (9-13 ธ.ค.) ที่ 30.20-30.50 บาทต่อ
ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดค้าปลีก และเครื่องชี้สัญญาณเงินเฟ้อจากดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต และดัชนีราคาสินค้านำเข้า-ส่งออก เดือนพ.ย. นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามผลการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษ สัญญาณนโยบายการเงิน จากผลการประชุมธนาคารกลางยุโรปในวันที่ 12 ธ.ค. และข้อมูลเศรษฐกิจเดือนพ.ย. ของจีนด้วยเช่นกัน
- "เอ็กซิมแบงก์" ดี๊ด๊า! คลังไฟเขียวเพิ่มทุน 1.5 หมื่นล้านบาท หวังเพิ่มประสิทธิภาพดูแลภาคส่งออกไทย เติมสินเชื่อรับมือ
- ส.อ.ท.ชี้เทรดวอร์ป่วนค้าโลกปี'63 วอน ธปท.เร่งแก้บาทแข็ง 3 ค่ายจี้'กสทช.'ประมูล 5จี คลื่นเดียว พณ.โชว์จ่าย
- ที่ปรึกษาด้านนโยบายของธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าระดับ 6% ในช่วง 5 ปีข้าง
- สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ของญี่ปุ่น ขยายตัว
- กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 266,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. สูงกว่าที่
ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.5% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี จากระดับ 3.6% ในเดือนต.ค.
- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 ธ.ค.) โดย
- นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 10-11 ธ.ค.นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาด
- นักลงทุนรอดูผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อจับสัญญาณเกี่ยวกับทิศทาง
- จับตาการเจรจาการค้าสหรัฐฯกับจีนเป็นประเด็นหลักก่อนถึงกำหนดการที่สหรัฐฯอาจจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอีกในวัน