นายณัฐพร ศรีทอง Senior Analyst ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย (KTB) กล่าวในบทวิจัยเรื่อง "เกาะติดทิศทางนักท่องเที่ยวจีน" ว่า ปัจจุบันไทยยังเป็นปลายทางแหล่งท่องเที่ยวอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยวจีน รองลงมาคือ ญี่ปุ่นและเวียดนาม ซึ่งในอนาคต Krungthai Compass ประเมินแนวโน้มนักท่องเที่ยวจีนออกเป็น 2 กรณี โดยกรณีแรก คือ หากไทยสามารถรักษาสัดส่วน 7% ของชาวจีนที่เดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่มาเยือนไทย มีโอกาสแตะ 23.4 ล้านคนในปี 2573 จากขณะนี้ที่มีจำนวน 11.1 ล้านคน
และกรณีที่สองคือ หากการแข่งขันรุนแรง โดยเฉพาะประเทศเวียดนาม อาจทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนเติบโตเพียง 5.5% หรืออยู่ที่ 20 ล้านคนใน 10 ปีข้างหน้า ซึ่งไทยต้องแข่งขันด้วยการรักษาจุดแข็งด้านความงดงามทางธรรมชาติ ความโดดเด่นด้านโครงสร้างพื้นฐาน บริการด้านการท่องเที่ยว การขนส่งทางอากาศและราคา เพิ่มความหลากหลายและความพร้อมของแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ โดยเฉพาะเมืองรองหลายๆ แห่งมีสัญญาณการขยายตัวสูง เช่น ตราด มีโอกาสเติบโต 56% ตรัง 35% แม่ฮ่องสอน 25% เชียงราย 22% สุโขทัย 18% ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัย
"ที่สำคัญ ผู้ประกอบการไทยควรทำการตลาดบนโซเชียลมีเดียจีนมากขึ้น เพื่อดึงดูดความสนใจและสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวจีนที่เชื่อถือข้อมูลบนโซเชียลมีเดียสูงมาก ซึ่งการสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์จีนนั้น อาจมีความท้าทายจากกฎระเบียบของประเทศจีน ผู้ประกอบการไทยจึงอาจเลือกใช้บริการจากเอเจนซีผู้เชี่ยวชาญในกกรทำการตลาดออนไลน์บนแพลตฟอร์มของจีนแทน ซึ่งมีทั้งบริษัทคนไทยและบริษัทร่วมทุน โดยสามารถจัดทำเป็นบทความภาษาจีนที่น่าสนใจ เพื่อเผยแพร่ในรูปแบบและช่องทางที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย การส่งแบนเนอร์ของธุรกิจไปยังหน้าจอ WeChat ตลอดจนการใช้บุคคลที่มีอิทธิพลทางความคิดของชาวจีน (Key Opinion Leaders) ที่มีอยู่มากมาย ช่วยรีวิวสินค้าและบริการ"
นายณัฐพร กล่าวต่อว่า ในระยะข้างหน้าไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยวจีน โดยไทยยังได้เปรียบด้านทรัพยากรธรรมชาติ ที่พักและราคา แต่ด้านความปลอดภัยยังเป็นรองอยู่มากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันเพื่อดึงความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวกลับมา
"แนวโน้มนักท่องเที่ยวจีนแบบมาเองจะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มชนชั้นกลางที่รวยขึ้นและอยากเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ พร้อมจะจ่ายมากขึ้น ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะมีการใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 54,000 บาท/คน/ทริป สูงกว่ากลุ่มที่มาเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์ที่ใช้จ่ายอยู่ที่ 50,000 บาท/คน/ทริป"นายณัฐพร กล่าว
ขณะที่โครงสร้างพื้นฐานเรื่องของสนามบินไทยก็มีการเตรียมรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยบมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท.มีแผนเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสาร 179-251 ล้านคนในปี 2568 จากปัจจุบันที่รองรับได้ 98 ล้านคน
ด้านนายพชรพจน์ นันทรามาศ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS กล่าวว่า ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีนมีความสำคัญอย่างมากต่อภาคการท่องเที่ยวของไทยและทั่วโลก โดยใน 10 ปีข้างหน้าการท่องเที่ยวต่างประเทศของชาวจีนจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 6.9% จาก 160 ล้านคน ในปี 2562 เป็น 334 ล้านคน ในปี 2573 เนื่องจากกำลังซื้อที่ยังเพิ่มขึ้น แม้เพิ่มในอัตราที่ชะลอลงบ้างตามทิศทางเศรษฐกิจ ชาวจีนรวยขึ้นในลักษณะกระจายตัวตามมณฑลต่าง ๆ โดยสัดส่วนชนชั้นล่างจะเพิ่มขึ้นจนเกือบเป็นครึ่งหนึ่งของครัวเรือนจีน
นอกจากนี้ จีนยังมีแผนขยายสนามบินและเที่ยวบินอย่างต่อเนื่อง โดยจะเพิ่มสนามบินใหม่อีกกว่า 200 แห่ง เป็น 450 แห่งในปี 2578 คนจีนที่มีพาสปอร์ตยังน้อย ปรับโครงสร้างพื้นฐานสนามบินเดิม นอกจากนี้ มาตรการผ่อนคลายด้านวีซ่าของประเทศต่างๆ หนุนให้ชาวจีนเที่ยวนอกได้ง่ายขึ้น
"โครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนไป จะสร้างนักท่องเที่ยวจีนหน้าใหม่ราว 33 ล้านคน โดยนักท่องเที่ยวจีนส่วนใหญ่มีอายุเฉลี่ย 35 ปี สามารถเข้าถึงข้อมูลในโลกออนไลน์ และสามารถท่องเที่ยวได้ด้วยตนเอง ซึ่งเริ่มมองหาแหล่งท่องเที่ยวประเภท Unseen รวมถึงเมืองรองทั้งในปละต่างประเทศมากขึ้น โดยเวียดนาม เมียนมา และกัมพูชา เป็นแหล่งท่องเที่ยวมาแรงในสายตาของนักท่องเที่ยวจีน ทั้งนี้ โซเชียลมีเดียมีมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเที่ยวนอกและช้อปปิ้งของชาวจีนสูงมาก ดังนั้นธุรกิจและองค์กรด้านการท่องเที่ยวทั่วโลก จึงใช้โซเชียลมีเดียจีนนำเสนอข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวจีน"
ช่วง 10 เดือนแรกของปี 62 (ม.ค.-ต.ค.) นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย 32.5 ล้านคน โดยตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2561 จนถึง ไตรมาส 3 ของปี 2562 นักท่องเที่ยวจีนยังคงเป็นตลาดสำคัญคิดเป็นสัดส่วน 27% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด มาเลเซีย 11% อินเดีย 5% เกาหลีใต้ 5% ส่วนปี 63 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทย 11.6-12 ล้านคน ขยายตัว 5-8% และคาดว่า 10 ปีข้างหน้าสัดส่วนของนักท่องเที่ยวจีนจะเพิ่มเป็น 30-35% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด